บล.เจ.พี.มอร์แกน (ประเทศไทย) ม.ล.ชโยทิต กฤดากร กรรมการผู้จัดการใหญ่ ชี้กระแสการควบรวมกิจการของบริษัทไทยที่ใช้โอกาสระหว่างที่เศรษฐกิจ
โลกมีปัญหาและเข้าซื้อกิจ
การในราคาที่ถูกกว่าปกติ
มีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ
กลุ่มอุตสาหกรรอิเล็กทรอ
นิกส์ และสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภค จากการ
สอบถามมีบริษัทไทยสน
ใจซื้อกิจการในต่าง
ประเทศเพิ่มและมีบริษัท
ต่างประเทศสนใจซื้อ
กิจการในไทยด้วย
ล่าสุดบริษัทเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและวาณิชธนกิจ
ในการเข้าซื้อหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ในจีนของซีพีมูลค่าการเข้าซื้อประมาณ 3.4 แสนล้านบาท และปัจจุบันบริษัทเตรียมนำธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคขนาดใหญ่ของประเทศไทย
เข้าจดทะเบียนใน ตลท.
ม.ล.ชโยทิตกล่าวว่า กรณีที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าภูมิภาค หรือเทรดดิ้งฮับ ซึ่งล่าสุดได้มีการปรับแก้
กฎหมายและเตรียมปรับ
ปรุงระบบภาษีนั้น ถือว่า
เป็นนโยบายที่มาถูกทาง เพราะเอื้อให้บริษัทขนาด
ใหญ่ของโลกเข้ามาลงทุน
ตั้งออฟฟิศในประเทศไทย
เมื่อบริษัทเหล่านั้นมีรายได้
ก็จะกลับเข้ามาที่ไทยทำให้ประเทศไทยมีรายได้มากขึ้น และยังเป็นปัจจัยบวกให้
บริษัทซึ่งมีความเชี่ยวชาญ
ด้านการให้บริการบริหาร
การเงินให้บริษัทขนาดใหญ่ เพื่อลดต้นทุนทางการเงิน
รวมทั้งเพิ่มผลตอบแทนจากรายได้รวม
ไทยยังคงเป็นประเทศที่
นักลงทุนต่างประเทศยัง
สนใจลงทุน แต่เขาเริ่มมอง
ประเทศอินโดนีเซียควบคู่
กันไปด้วย โดยไทยได้
เปรียบอินโดนีเซีย เพราะโครงสร้างพื้นฐานและระบบ
ห่วงโซ่อุตสาหกรรมของ
ไทยครบวงจรมากกว่า
ทั้งชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
และชิ้นส่วนยานยนต์
ที่มา : นสพ.มติชน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น