หน้าเว็บ

ข่าวทันหุ้นวันนี้

วันอังคารที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2557

Q> คมนาคม เดินหน้าตั๋วร่วม BTS-MRT-แอร์พอร์ตลิงก์ คาดให้บริการราวก.ค.59

IQ>   คมนาคม เดินหน้าตั๋วร่วม BTS-MRT-แอร์พอร์ตลิงก์ คาดให้บริการราวก.ค.59

          สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ธ.ค. 57)--นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการระบบตั๋วร่วมว่า จะเร่งสรุปแผนจัดตั้งผู้บริหารจัดการและบำรุงรักษาระบบตั๋วร่วม(Common Ticket Company:CTC) เพื่อเสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยโครงสร้างจะมีการตั้งหน่วยงานบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมในระดับนโยบายเป็นคณะกรรมการระดับชาติ เพื่อเป็นผู้กำหนดนโยบายขนส่งสาธารณะ มาตรฐานระบบตั๋วร่วม ฯลฯ มีสำนักงานโครงการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม(สตร.) ภายใต้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) ทำหน้าที่กำกับดูแล และมีหน่วยงานทำหน้าที่บริหาร บำรุงรักษา และดำเนินงานระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง(CCH) โดยร่วมทุนกับเอกชนตาม พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนฯ 2556 โดยในระยะแรกการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) จะต้องตั้งหน่วยธุรกิจ(BU) ขึ้นมาดำเนินการก่อน
--อินโฟเควสท์ โดย คคฦ/ธนวัฏ/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

วันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ข่าวลือทุบหุ้นเฉียด10% แนวรับ1,450จุดแกร่ง

ข่าวลือทุบหุ้นเฉียด10%
แนวรับ1,450จุดแกร่ง
โบรกฯ แนะเก็บ 5 หุ้นวิ่งสวนตลาดแพนิก

วันอังคารที่ 16 ธันวาคม 2557 
 

หุ้นไทยแพนิกดิ่งเกือบ 10% เทรดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังได้รับผลกระทบราคาน้ำมันและข่าวลือต่อเนื่อง ด้านโบรกฯ มองแนวรับ 1,450 จุดเอาอยู่ แนะทยอยเก็บหุ้นแกร่ง 5 ตัว TRUE-MTLS-RS-AOT และ KBANK วันนี้มีโอกาสรีบาวด์สูง เม็ดเงิน LTF ไหลเข้า

วานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงระหว่างวันต่ำสุดที่ระดับ 138 จุด หรือเกือบ 10% ด้วยมูลค่าซื้อขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันและข่าวลือที่ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่วันนี้โบรกฯ มองมีโอกาสรีบาวด์ค่อนข้างสูง เนื่องจากราคาหุ้นไทยตอนนี้ถือว่าถูกแล้ว โดยหุ้นที่โบรกฯ แนะนำทยอยเก็บ และเป็นหุ้นที่สามารถรีบาวด์ระหว่างวันได้อย่างแข็งแกร่ง  5 ตัว ได้แก่ หุ้น TRUE-MTLS-RS-AOT และ KBANK

ข่าวลือทุบหุ้นดิ่ง10%

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท.  กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงต่ำสุดระหว่างวันถึง 138.96 จุด หรือ 9.17% เนื่องจากปัจจัยด้านราคาน้ำมันในตลาดโลกกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานในประเทศที่มีสัดส่วน 12% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด ปรับตัวลดลงถึง 9% แต่เป็นเพียงการปรับลดลงช่วงระยะสั้นเท่านั้น

โดยดัชนีระหว่างวันสามารถดีดตัวกลับมาอยู่ในระดับที่เป็นเหตุเป็นผลสะท้อนปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดได้อย่างมีเสถียรภาพ ส่งผลให้ระหว่างวันดัชนีลดลงต่ำสุด 1,375.99 จุด และขึ้นสูงสุด 1,494.10 จุด ปิดตลาดวานนี้ที่ 1,478.49 จุด ลดลง 36.46 จุด หรือ 2.41% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 102,662.94 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์

ส่วนขณะนี้มีกระแสข่าวลือเชิงลบภายในประเทศค่อนข้างมากโดยนักลงทุนต้องมีความระมัดระวังในการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มมากขึ้น เพราะกระแสข่าวอาจส่งผลกระทบต่อหุ้นที่ถือครองอยู่พอสมควร ซึ่งตลท.มีการรายงานสถานการณ์หุ้นไทยให้กระทรวงการคลัง, สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทราบถึงสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

“ข่าวลือที่เกิดขึ้นในตลาดฯ จนส่งผลให้ดัชนีฯ ลงแรงนั้น ตลท.ตรวจสอบและพบว่าเป็นเพียงแค่ข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริง และไม่อยากให้นักลงทุนเป็นกังวลเนื่องจากข่าวลือก็คือข่าวลือ ไม่ได้มีข้อเท็จจริงแต่อย่างใด”

วานนี้ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 829.28 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 2,560.91 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 4,194.57 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 7,584.76 ล้านบาท

ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องมากกว่า 100 จุด ว่า ขึ้นมาแล้วเหลือ 30 กว่าจุด สถานการณ์ไม่มีอะไร ลือไปส่งเดช ต่างชาติก็ตกใจประเทศมีข่าวลือเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อย และไม่เกี่ยวข้องกับเหตุก่อการร้ายที่ออสเตรเลีย

นายกฯ กล่าวว่า สั่งให้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ ไปดูแล้ว และรายงานว่าสถานการณ์ปกติทุกอย่างกำลังดีขึ้น หุ้นที่ตกก็ตกไปตามสถานการณ์ตลาด รัฐบาลมีการติดตามอยู่ตลอด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงมากกว่า 100 จุด ระหว่างที่นายกฯ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล สั่งให้ม.ร.ว.ปรีดียาธร ไปติดตามสถานการณ์ โดยม.ร.ว.ปรีดิยาธรออกจากห้องประชุม โทรศัพท์สอบถามติดตามสถานการณ์หุ้นอยู่ด้านนอกห้องประชุม บริเวณด้านข้างตึกสันติไมตรี ด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด ก่อนที่จะกลับเข้าไปรายงานนายกฯ ในห้องประชุม

นายสมหมาย ภาษี รมว.กระทรวงการคลัง กล่าวว่า ตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลงเป็นไปตามกระแสทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากแรงกดดันของราคาน้ำมันที่ปรับตัวอย่างหนัก แต่ขณะเดียวกับต้นทุนหลายอย่างในประเทศถือว่าอยู่ต่ำเช่นกัน ซึ่งประเมินว่าอาจช่วยเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นตัวได้ดีระดับหนึ่งและภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนจะดีขึ้นตามไปด้วย อาทิ ผลดีของการปรับค่าโดยสารอาจมีการปรับลดลงในอนาคต อย่างไรก็ตาม ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยเฉพาะคนไทยที่ชอบวิตกกังวลเป็นพิเศษ

แนวรับ 1,450 จุดแกร่ง

นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการเงินทุนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า แนวรับ 1,450 จุด ที่พีอี 13 เท่า ถือว่าเป็นแนวรับที่แข็งแกร่งของตลาดหุ้นไทย ยังคงแนะนำนักลงทุนให้เข้าทยอยสะสมหุ้น เนื่องจากหุ้นไทยขณะนี้ถือว่าราคาถูกแล้ว

“หุ้นไทยที่ระดับพีอี 13 เท่า ถือว่าถูกแล้ว แนวรับ 1,450 จุด เป็นแนวรับที่แข็งแกร่งนักลงทุนควรทยอยเข้าลงทุนในหุ้นพื้นฐานที่ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ลดลง”

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าช่วงสัปดาห์ที่เหลือของปีนี้ คาดว่าเม็ดเงินลงทุนจาก LTF จะยังคงไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงที่ดัชนีหุ้นไทยมีการปรับตัวลงมาค่อนข้างมากหลายวันติดต่อกัน

ด้านนายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงและเร็ว เป็นจังหวะดีในการเข้าสะสมหุ้น เพื่อรับปัจจัยบวกในอนาคต คาดว่าตลาดกลับมารีบาวด์ได้ในระยะข้างหน้า ล่าสุดบริษัทตัดสินใจเสนอขายกองทุนเปิด วรรณ สปอท 5/3 ฟันด์ ระหว่างวันที่ 15-19 ธ.ค. 57 โดยคาดหวังผลตอบแทน 5% ภายใน 5 เดือน เพื่อรองรับจังหวะที่ดัชนีย่อตัวลงในช่วงนี้เพื่อรอการปรับขึ้นในช่วงถัดไป

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงและเร็ว จากหลายปัจจัยทั้งการขายทำกำไรก่อนเข้าช่วงวันหยุดยาวสิ้นปี หลังจากที่ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นมาค่อนข้างมากแล้วในปีนี้และความกังวลจากกระแสข่าวลือต่างๆ ทำให้ตลาดปรับตัวลดลงกว่า 5% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังคงมีปัจจัยสนับสนุนอีกค่อนข้างมาก จึงมองว่าเป็นเพียงการปรับตัวลดลงระยะสั้นเท่านั้น และตลาดหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวต่อไปได้ โดยมองว่าช่วงปลายปีดัชนีน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,550-1,600 จุด

“ปัจจัยพื้นฐานของหุ้นยังมีปัจจัยบวกรออยู่ข้างหน้าอีกหลายปัจจัย ทั้งเรื่องปัจจัยต่างประเทศ ได้แก่ แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาซึ่งสนับสนุนให้นักลงทุนมีความสนใจการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น สภาพคล่องที่ล้นระบบจากการผ่อนคลายนโยบายการเงิน (QE) ของธนาคารกลางยุโรปและญี่ปุ่นที่ทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มเติม และการยังไม่รีบเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ หลังจากที่อัตราเงินเฟ้อยังคงผ่อนคลายจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ทำให้มองว่าการลงทุนในหุ้นยังเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจในการลงทุนอยู่สำหรับนักลงทุน” นายวิน กล่าว

นายวิน กล่าวว่า ขณะที่เศรษฐกิจไทยในปีหน้าคาดว่าจะดีขึ้นจากการฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน เม็ดเงินลงทุนของภาครัฐที่ทยอยเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในต้นปีหน้า โดยเฉพาะการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น รถไฟฟ้า รถไฟชานเมือง ที่เริ่มมีการประมูลกันไปบ้างแล้วและบางเส้นทางน่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในเดือนม.ค. 58 รวมทั้งฐานจีดีพีที่ต่ำในปีนี้ ประกอบกับแนวโน้มที่ กนง. อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 1 ครั้ง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในเร็วๆ นี้ และราคาน้ำมันที่ปรับลดลงน่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยในฐานะที่เป็นผู้นำเข้าน้ำมันสุทธิและทำให้กำไรขั้นต้นของบริษัทจดทะเบียนปรับเพิ่มขึ้นได้

“การปรับฐานช่วงที่ผ่านมาของตลาดหุ้นไทยทำให้มูลค่าหุ้นไทย (PE) ปรับตัวลดลงมาซื้อขายที่ระดับ PE ปี 2558 ที่ระดับเพียง 13.5 เท่า ขณะที่กำไรของบริษัทจดทะเบียนสูงกว่า 15% ทำให้ระดับ PEของหุ้นไทยอยู่ต่ำกว่า 1.0 เท่า ซึ่งสะท้อนถึงราคาหุ้นที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับการเติบโตของกำไรบริษัท ซึ่งนับได้ว่าเป็นระดับมูลค่าหุ้นที่ยังไม่แพงมากและยังเป็นที่น่าสนใจ ซึ่งทำให้ยังสามารถดึงเม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติได้อยู่” นายวิน กล่าว

*"เกศรา"เตรียมชี้แจงกรณีตลาดหุ้นร่วงเร็ว-แรงกว่า 100 จุดหลัง 16.30 น.

IQ>   *"เกศรา"เตรียมชี้แจงกรณีตลาดหุ้นร่วงเร็ว-แรงกว่า 100 จุดหลัง 16.30 น.
Monday, December 15, 2014 16:09

          สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ธ.ค. 57)--เจ้าหน้าที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เปิดเผยว่า นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลท.จะชี้แจงกรณีที่ตลาดหุ้นไทยในภาคบ่ายร่วงลงมากกว่า 130 จุดอย่างรวดเร็วหลังจากเวลาที่ตลาดหลักทรัพย์ปิดทำการในเวลาหลังจาก 16.30 น.วันนี้

หันเล่นหุ้นมือใหม่