หน้าเว็บ

ข่าวทันหุ้นวันนี้

วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2558

หุ้นมีข่าว (1-APR-15) By KTBST

หุ้นมีข่าว (1-APR-15)
By KTBST

*  กลุ่มเดินเรือ   สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือ ลดเป้าส่งออกปี'58เหลือ0% 
*  กลุ่มท่องเที่ยว   ธปท.ชี้ดัชนีเชื่อมั่นผงกหัวลุ้นท่องเที่ยวขับเคลื่อนศก.
*  กลุ่มทีวีดิจิตอล   ดิจิทัลทีวีหืดจับโฆษณาไม่เพิ่มดิ้นปรับ'คอนเทนต์'ดึงเรตติ้ง
*  กลุ่มธนาคาร อสังหาฯ    'บัวหลวง'  โชว์ไอพีโอ4-5ดีล มอง EPS เติบโต 15% แนะกลุ่มธนาคาร อสังหาฯ
*  กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์   ปีนี้กลุ่มหลักทรัพย์กำไรหด6% แข่งดุฉุดรายได้ค่าคอมฯทรุด
*  กลุ่มพลังงานทดแทน   'พลังงาน'ปลื้ม ปิดรับไฟ โซลาร์ฟาร์ม ฉลุยเหลือ 3 ราย ( 3.8 MW) ที่ยังไม่ติดต่อมา
*  กลุ่มพลังานทดแทน  เรกกูเลเตอร์ เผยผู้ยื่นขายไฟฟ้าโซลาร์รูฟท็อป(บ้าน)น้อยมาก เพียง 11.65 MW (เป้า 78.63 MW)
*  กลุ่มรับเหมาฯ   ญี่ปุ่นขอลงทุนรถไฟทางคู่ 2 เส้นทางทั้งกาญจนบุรี-แหลมฉบังและกรุงเทพ-เชียงใหม่ "ประจิน" เตรียมหารือ "นายกฯ"
*  กลุ่มสายการบิน   กล่อมญี่ปุ่นขอ90วันแก้ปมการบิน ส่อเปิดทางเช่าเหมาลำบินได้-นายกฯเร่งเสร็จใน1เดือน 
*  กลุ่มสายการบิน   จ่อรื้อใบอนุญาต 41 สายการบิน สั่งตั้ง "การบินพลเรือนแห่งชาติ" ยึดอำนาจ บพ.
*  กลุ่มสายการบิน   'บิ๊กตู่'ขีดเส้น 1 เดือนปัญหาการบินจบ ก่อนเสนอ'ICAO'ปลดล็อก ให้แอร์ไลน์ไทยเพิ่มเที่ยวบิน
*  การเมือง   เลิกอัยการศึก นายกฯทูลเกล้าฯแล้ว-ลั่นใช้ ม.44 ทำงานเร็วขึ้น คดีมั่นคงสู้ได้3ศาลทหาร ติงปชต.ไทยติดกระดุมผิด
*  ตลาดหุ้น    ตลาดหลักทรัพย์ฯ-ก.ล.ต. จับพิรุธ บจ.เปลี่ยนแปลงราคาพาร์ผิดวัตถุประสงค์ เดินหน้า หาแนวทางวางเกณฑ์ใหม่
*  AAV   เฮญี่ปุ่นบุ๊กตารางบิน-อวดLoad Factorพุ่ง80%
*  BCP   'บางจาก' เตรียม ขายหุ้นเหมืองแร่ โปแตซอาเซียน
*  BCP   ส่งซิกกำไรQ1/58เริ่ดเทงบ2.4หมื่นล.ขยายลงทุน
*  BCP  งบไตรมาสแรกแจ่มโชว์กำไรเกิน1.56พันล้าน
*  BIG   ยอดขายQ1โตสดใสปักเป้ามาร์จิ้นสูงกว่า5.23%
*  BKD   ลั่นผลงานQ1เริ่ดโชว์แบ็กล็อก2พันล้าน
*  BLS  อัพบัญชีลูกค้าใหม่โต20%ช็อปหุ้นพื้นฐานแบงก์-สื่อสาร
*  BRR    มั่นใจกำไรปี58โต 50% ลั่นกำลังผลิตน้ำตาลเพิ่ม-บุ๊คโรงไฟฟ้า 450ล้าน
*  BTS   กวินนั่งแท่น! ซีอีโอใหม่BTS"คีรี"ประกบคู่
*  CEI    เพิ่มทุนเป็น 300 ล้าน แตกพาร์เหลือ0.25บาท รุกขยายลงทุนพลังงาน
*  CEI   เพิ่มทุนลุยพลังงานเข็นPP-แตกพาร์0.25บาท
*  CPF , CFRESH    ส่งออกกุ้งกระอักคู่แข่งดัมพ์ราคาขอ840ล.ชุบชีวิต
*  CWT   เจ๋งกองทุนจีบขอถือหุ้นรุกโซลาร์-เซ็นโรงไฟฟ้าขยะ
*  DTAC-INTUCH-SCC  กลุ่มภัทรเปิด6หุ้นน่าลงทุน DTAC-INTUCH-SCC นำทีม
*  EARTH    เปิดสตอรีเด็ดใหม่ลุยโรงไฟฟ้าถ่านหินฟิลิปปินส์
*  EARTH    ผนึก2พันธมิตรนอกลุยโรงไฟฟ้าถ่านหินในฟิลิปปินส์
*  EARTH   จับมือพันธมิตรตั้งโรงไฟฟ้าที่ฟิลิปปินส์
*  EARTH  ผนึกฟิลิปปินส์-ฝรั่งเศสลุยโรงไฟฟ้าถ่านหิน150MW
*  GL   บล.เอเชียเวลท์แนะซื้อ GL ธุรกิจนาโนฯดันรายได้เพิ่ม
*  INET   ผลงานพลิกกำไรจับมือพันธมิตรใหม่รุก4G 
*  KKP   ทริสลดมุมมอง KK เป็น"คงที่"หนี้เน่าเพิ่ม-ราคารถมือสองวูบ
*  KTB   แบงก์กรุงไทยจ่อขยายเพดานสินเชื่อบุคคลเสิร์ฟขรก.เงินเดือนขึ้น
*  KTC   พร้อมใช้มาตรฐานบัญชีTFRSมั่นใจไม่กระทบกำไร-เงินสำรองหนี้
*  LPN    จัดแมเปญร้อนเปิดขาย'ลุมพินี ทาวน์ชิป'
*  MAJOR   งบโตแรงชงรายได้2หมื่นล้านร่วมทุนรุกฐานตปท.
*  MAJOR   เมเจอร์ปักธงพันโรงใน5ปีทุ่ม1,500ล.ลุยหวังโต15%
*  MAJOR   รายได้ปี58โต15% ตั้งงบลงทุน1,500ล้าน เดินหน้าขยายธุรกิจ
*  MAJOR  'เมเจอร์'ต่อจิ๊กซอว์โรงหนังทั่วอาเซียนซุ่มเปิด'ลาว'/ทุ่ม500ล.ปั้นเอ็มควอเทียร์ซีนีอาร์ต
*  NCL   บุกตลาดอาเซียนปั๊มรายได้ปี58โต30%
*  NOK   พลิกเกมนกสกู๊ต ใช้ไลเซนส์สิงคโปร์บิน JCAB จ่ออนุมัติชาร์เตอร์ไฟลต์ไทยบินเข้าญี่ปุ่น
*  OCEAN   เดินแผนลงทุนโรงไฟฟ้า ย้ำเป้าหมายรายได้ปี58โต20%
*  OCEAN  เจาะโมเดิร์นเทรดQ2/58ซดรายได้60ล้าน
*  OTO   ซุ่มดีลควบรวมกิจการโบรกเชียร์'ซื้อ'เป้า6.80บ.
*  PJW   รายได้ปี58พุ่ง10% ออเดอร์งานลูกค้าทะลัก ธุรกิจพ่นสีคุ้มทุนในปีหน้า
*  PJW  ดันยอดขายโต10%ตุนแบ็กล็อกเฉียด100ล.ดี๊ด๊ารคาเม็ดพลาสติกลง
*  PS   ซื้อเป้าหมาย37บาทส่งซิกไตรมาสแรกสวย
*  SYNEX    'ซินเน็ค' รุกอินโดจีน ดันรายได้ 2 หมื่นล้าน
*  SYNEX   ซินเน็คฯตั้งเป้ารายได้ทะลุ2หมื่นล.รุกอินโดจีนเพิ่มพันธมิตรเสริมแกร่ง
*  SYNEX   รายได้พุ่ง2.1หมื่นล้าน กำไรปีนี้สวย จ่อบุ๊คพิเศษหนี้เสีย150ล้านบาท
*  TVD    รุกเพิ่มตลาดออนไลน์ วางเป้ารายได้ปี 58 โต 15%
*  TVD   ทีวีไดเร็คชูออนไลน์ดันสัดส่วนขาย 25%
*  TVD  ขายออนไลน์กระฉูดลุ้นงบโค้งแรกพลิกกำไร
*  UAC  อัดงบลงทุนปี58พันล้านใส่เกียร์ลุยพลังงานทดแทน/ปี60สัดส่วนรายได้พุ่ง50%
*  UNIQ  ลุ้นงานใหญ่แสนล้าน ดันรายได้ทะลุหมื่นล.-เป้า21บ.
*  UV   โชว์กำไรสร้างสถิติ3ปีจ่อร่วมพันธมิตรแตกไลน์ธุรกิจ
*  VPO   ส่องเม.ย.ฟื้นชัดผลผลิตปาล์มกระเตื้องจ่อซื้อกิจการต่อยอด
*  VPO  วางเป้ากำไรปีนี้โต30% ทุ่มงบ 100 ล้าน-เล็งซื้อกิจการ

Market Outlook 1 เม.ย.58 พิชัย เลิศสุพงศ์กิจ TNS


Market Outlook 1 เม.ย.58
พิชัย เลิศสุพงศ์กิจ TNS
 
SET ระยะสั้นมีจังหวะฟื้นต่อเนื่อง แต่ต้องระวังแรงขายแถวแนวต้าน 1520-1530 จุด ประเด็นลงทุน  

1) จ่อยกเลิกกฎอัยการศึก แม้ม.44 แทน
2) ทริกเกอร์ฟันด์มูลค่า 5-6 พันล้านบาท ทยอยเก็บหุ้น  
3) ญี่ปุ่นยอมเช่าเหมาลำบินชั่วคราว 2 เดือน ช่วยหนุนการฟื้นตัวของหุ้น AOT(แนวต้าน 290), AAV(แนวต้าน 5.30), NOK (ต้าน 12 บ.)
4) แม้เศรษฐกิจเดือนก.พ.ยังอ่อนแอ แต่การผลิตภาคอุตสาหกรรมเริ่มฟื้น และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลสูง ช่วยเติมสภาพคล่องในประเทศ
5) หุ้นพลังงานเหวี่ยงลง ตามราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ -1.18$ ปิด 55.11$/บาร์เรล หลังมีรายงานว่า การผลิตกลุ่มโอเปกเพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนมี.ค. รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่ายอดส่งออกของอิหร่านจะเพิ่มขึ้น หากชาติมหาอำนาจมีมติยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน
6) ดาวโจนส์ -1.11% ตลาดหุ้นยุโรป-0.6% เหตุหุ้นพลังงานดิ่ง และวิตกเฟดขึ้นดบ.

ASP Strategic Move ปรับหมากกลยุทธ์ 1 เม.ย. 58

ASP Strategic Move ปรับหมากกลยุทธ์ 1 เม.ย. 58

วานนี้ SET Index ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 9.43 จุด หรือ 0.63% หลังได้ปัจจัยหนุน นายกฯ เสนอทูลเกล้ายกเลิกกฎอัยการศึก ประเมินการฟื้นตัวของ SET Index ยังไม่เสถียรเท่าไหร่นัก เพราะมูลค่าการซื้อขายโดยรวมยังต่ำกว่าเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปี 2558 มาก (วานนี้มีเข้ามา 3.5 หมื่นล้านบาท ขณะที่เฉลี่ยปี 2558 อยู่ที่ 5 หมื่นล้านบาท) อีกทั้ง SET50 Index ฟื้นตัวช้ากว่า SET Index อย่างเห็นได้ชัด (2 วันที่ผ่านมา SET Index บวก 0.72% แต่ SET50 ขึ้นเพียง 0.44%) สะท้อนว่าที่ตลาดขึ้นมาจากการ ซื้อกลับหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ซึ่งอาจเป็นแค่การซื้อคืนเพื่อลุ้นทำกำไรระยะสั้นตามจังหวะ Technical Rebound เท่านั้น นอกจากนี้ความผ่อนคลายจากการยกเลิกกฎอัยการศึก คาดว่าจะเป็นแค่ Sentiment เชิงบวกในระยะสั้นๆ เพราะว่าในระยะถัดไปจะถูกแทนที่ด้วยความกังวลเกี่ยวกับการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมณูญฉบับชั่วคราว ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องติดตามประกาศที่จะออกมาบังคับใช้จากมาตรา 44 สำหรับวันนี้คาดดัชนีอาจแกว่งตัวเชิงลบในกรอบแคบ 1,494 -1,512 จุด จากบรรยากาศเชิงลบการปรับฐานของหุ้นทั่วโลก (ดัชนีดาวโจนส์ปรับร่วงกว่า 1.11%) โดยดัชนีอาจได้ปัจจัยทางเศรษฐกิจในประเทศที่ผ่อนคลายมากขึ้นเป็นตัวประคองตลาด หลัง กระทรวงการคลังเปิดเผยตัวเลขการเบิกจ่ายงบประมาณครึ่งปี 2558 ได้เกินครึ่งที่ 50.8% มาจากงบประจำเบิกได้ 1.17 ล้านบาทจาก 2.12 ล้านบาทคิดเป็น 53.6% งบลงทุนเบิกได้ 1.33 แสนล้านบาทจากวงเงินทั้งสิ้น 4.49 แสนล้านบาทคิดเป็น 29.58% และการเบิกจ่ายงบเหลื่อมปีวงเงิน 3.6 แสนล้านบาทสามารถเบิกได้ 1.34 แสนล้านบาท หรือในสัดส่วน 3.8%

จาก ASP Market Talks วันนี้ ธุรกิจการบิน และ สนามบินไทย ICAO ซึ่งเป็นหน่วยงาน ควบคุมมาตรฐานการดูแลธุรกิจการบินแต่ละประเทศ ได้มีข้อสรุปว่า ทำงานกรมการบินพลเรือนไทย (บพ.) ต่ำกว่ามาตรฐาน (บุคคลากรภาครัฐที่ควบคุมมาตรฐานการบินมีน้อยมาก เทียบกับจำนวนสายการบินที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา) ส่งผลให้หลายประเทศ ระงับการเพิ่มเที่ยวบินเหมาลำจากไทย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี จีน นอกจากนี้ยังชะลอการเปิดจุดบินใหม่ๆ และมีบางประเทศ เช่น สิงคโปร์ เริ่มเข้มงวด การเพิ่มสายการบินจากไทย ซึ่งกระทบต่อผู้ให้บริการสายการบินของไทย เรียงลำดับจากกระทบมากไปน้อยคือ NOK(BV@B6) เนื่องจากถือหุ้นทางอ้อมของ สายการบินนกสกู๊ต (สัดส่วนการถือหุ้นสุทธิ 24%) ซึ่งได้ถูกระงับเที่ยวบินไปญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ทั้งหมด รองมา คือ THAI(ถือ:FV@B15.3 มี BV@B18.8) (เฉพาะการเพิ่มเที่ยวบินเหมาลำไปญี่ปุ่น 2 เที่ยว และ THAI มีใบอนุญาตการบินครบถ้วนความเสี่ยงจึงน้อย) และ AAV(ซื้อ:FV@B6 มี BV@B6) คาดว่าน่าจะกระทบน้อย เพราะ AAV มีความสัมพันธ์กับ สายการบิน แอร์เอเชีย เอ๊กซ์ ในลักษณะของการมีผู้ถือหุ้นกลุ่มเดียวกันเท่านั้น ผลกระทบที่เกิดกับ แอร์เอเชีย เอ๊กซ์ จึงไม่มีผลต่อ รายได้และกำไรของ AAV แต่อาจจะกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุน อย่างไรก็ตาม AAV อาจจะได้รับผลกระทบบ้างในเรื่องของการเปิดจุดบินใหม่ๆ ที่อยู่ในแผนเช่น ในจีน เป็นต้น และ BA(ซื้อ: FV@B25.5 มี BV@B12) น่าจะกระทบน้อยสุด เพราะ เส้นทางบินส่วนใหญ่อยู่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงไม่มีเที่ยวบินไปญี่ปุ่น เกาหลีใต้ หรือจีน (ขณะที่มีใบอนุญาตครบถ้วนเช่นเดียวกับ THAI จึงเป็น 2 ราย ที่ไม่น่ากังวล) ขณะนี้เชื่อว่ารัฐฯจะพยายามเข้ามาเร่งแก้ไขปัญหาเอง ซึ่งคาดจะเห็นพัฒนาการเชิงบวกตามที่ ICAO กำหนดภายใน 2 เดือน และปัญหาทั้งหมดจะถูกแก้ใน 8 เดือน ซึ่งหากเป็นไปตามสมมติฐานนี้คาดว่า กระทบต่อ AOT ในฐานะที่เป็นผู้ผูกขาดการให้บริการสนามบิน โดยผลกระทบที่จะเกิดขึ้นคือ จำนวนเที่ยวบินขึ้น-ลง สนามบิน ที่ AOT น่าจะหายไปราว 400 เที่ยว หรือคิดเป็น 0.06% ของเที่ยวบินทั้งหมด ส่วนจำนวนผู้โดยสารหายไปราว 6 แสนคน หรือ ราว คิดเป็น 0.69% ของจำนวนผู้โดยสารที่ประเมินไว้ที่ 86 ล้านรายในปี 2558 ทั้งหมดนี้จะกระทบต่อการรับรู้รายได้ค่าธรรมเนียมผ่านสนาม (ทั้งรายบุคคล และ สายการบิน) และในการประเมินเบื้องต้น หากมองโลกในแง่ร้าย โดยให้เที่ยวบินเหมาลำซึ่งคิดเป็น 5% ของเที่ยวบินทั้งหมด ถูกยกเลิก คาดว่าจะกดดันให้กำไรสุทธิของ AOT หายไปราว 15% จากประมาณการเดิม และ จะกระทบต่อ Fair Value ราว 25 บาท หรือลดลงราว 7.8% ลงมาที่ 295 บาท ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาตลลาดแล้วพบว่า เริ่มมี upside 6% แต่อย่างไรก็ตามสถานการณ์ปัจจุบันถือว่ายังคงสุ่มเสี่ยง จึงยังคงคำแนะนำ ถือ หุ้น AOT ต่อ ไป สำหรับนักลงทุนที่มีหุ้น AOT อยู่แล้ว แต่สำหรับผู้ที่ต้องการ ลงทุนระยะสั้น คาดว่าแนวรับที่ 260 บาท ทำให้มี upside จาก Fair Value ที่ 295 ราว 12% จึงเป็นจุดที่แนะนำให้เริ่มสะสมรอบใหม่
ท่องเที่ยว การยกเลิกกฏอัยการศึก และ หันมาใช้ มาตร.44 ยังไม่อาจสรุปว่าทุกอย่างจะกลับมาปกติ กล่าวคือ จะยังเป็นอุปสรรค ต่อธุรกิจท่องเที่ยว โดยเฉพาะการจัดประชุมสัมมนาระหว่างประเทศ (business trip) เนื่องจากบริษัทประกันภัย ไม่คุ้มครองในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่สุ่มเสี่ยงต่อชีวิต ประกอบกับ ปัญหาอุตสาหกรรมการบินไทย จากที่เกิดจากหน่วยงานภาครัฐขาดประสิทธิภาพดังกล่าวข้างต้น อาจจะทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวไทยสะดุดหรือไม่ เพราะในปี 2558 มีการตั้งเป้าหมายยอดท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากปี 2557 ถึง 13% เป็น 28 ล้านคน ขณะที่ ฤดูกาลท่องเที่ยว (พีค) ซึ่งตามปกติจะเกิดขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปี และ ไตรมาสแรก ทุกปี ได้ผ่านพ้นไปแล้ว โดยข้อมูลล่าสุดพบว่ายอดนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไทย ในเดือน ม.ค. 2558 มีทั้งสิ้น 2.65 ล้านคน เพิ่มขึ้น 16.3% จาก ม.ค. 2557 เป็นการเติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ทั้งนี้แม้ว่าการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากนักท่องเที่ยวในแถบเอเซียตะวันออก ซึ่งมีสัดส่วนเพิ่มจาก 47.27% ในปี 2557 เป็น 58.23% ในช่วง ม.ค. 2558 โดยพบว่าส่วนใหญ่มาจาก อาเซียน ( เพิ่มจาก 18.28% เป็น 23.44%) และ จีน (จาก 15.6% เป็น 21.11%) ขณะที่นักท่องเที่ยวจากกลุ่มสหภาพยุโรปลดลงจาก 37.2% เหลือ 27.4% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลดลงของชาติรัสเซีย ฟินแลนด์ สวีเดน นอร์เวย์ และ เนเธอร์แลนด์ เป็นต้น

Ant eye view : การก้าวข้ามผ่าน SMA 5 วัน ทำให้เกิดสัญญาณฟื้นตัวระยะสั้นๆได้ดีระดับหนึ่ง ที่จะต้องลุ้นกันต่อก็คือ SET จะผ่าน 1,512 จุด และ 1,517 จุด จาก EMA 14 วัน ได้หรือไม่ หากผ่านได้ จะเป็นการพ้นอิทธิพลขาลงในช่วงสั้น แต่ส่วนตัวกังวลว่าคงผ่านด่าน 1,512 และ 1,517 จุด ยาก เพราะดูอาการ SET แล้ว มันอ่อนแอโรครุมเยอะเหลือเกิน
ภาพระยะกลาง เป็นห่วงจากใจเลยว่า SET อาจลงยาวต่อเนื่องได้อีก (ยกเว้นว่าจะผ่าน 1,512 และ 1,517 จุด ขึ้นไปได้) หากดัชนีไม่ผ่าน 2 ด่านสำคัญ และพลิกกลับมาต่ำกว่า 1,500 จุด และ 1,494 จุดอีกครั้ง คาดว่าดัชนีจะไหลลงทดสอบ 1,478 จุด และลงต่ออย่างน้อยถึง 1,452 จุด

บทวิเคราะห์รายไตรมาส Invest+ 2Q58 ออกแล้วนะครับ ผู้อ่านสามารถ Download ได้ที่ web link ด้านล่าง http://inv4.asiaplus.co.th/web_research/…/03/Mar_2015xxx.pdf
กลยุทธ์การลงทุน Investment Tactic : SET ยังแกว่งตัวลง เนื่องจากยังขาดความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ แต่ณ ค่า PER 14.5 เท่า ถือ เป็นโอกาสสะสมหุ้นพื้นฐาน PER ต่ำ+ ปันผลสูง ที่จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในเดือน เม.ย. คือ AIT(FV@B53) และ ยังเลือก STPI(FV@B23.6) เป็น Top Pick เพราะมีโอกาสได้งานใหม่สูงมาก
■ หุ้น PER ต่ำ และเตรียมมี Story เด่น STPI
■ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง ASK, SPALI
■ Portfolio Update : ASK, SPALI,

Master Of Trend

Master Of Trend


o ในที่สุดท่านนายกรัฐมนตรีได้ทูลเกล้าถวายขอโปรดเกล้าฯยกเลิกการใช้กฏอัยการศึก (Martial Law) มาเป็นการใช้อำนาจปกครองแบบเบ็ดเสร็จ มาตรา 44 (Article 44) ที่เพิ่งมีการร่างขึ้นใหม่ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับคสช.ซึ่งให้อำนาจแก่ท่านนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าคณะคสช.อย่างเต็มที่ ในการตัดสินใจทุกด้านไม่ว่าจะเป็นการบริหารงานแผ่นดิน งานด้านการบังคับใช้กฏหมาย ฯลฯ โดยไม่ต้องผ่านการเห็นชอบจากกลไกใดๆ แน่นอนว่าในทางทฤษฎีน่าจะมีผลต่อการที่ต่างชาติได้เคยกดดันให้ยกเลิกการใช้กฏอัยการศึกผ่อนคลายลงไป แต่คงต้องมาดูเนื้อหาและขอบเขตของอำนาจใหม่ว่าจะเป็นที่ยอมรับหรือไม่ ในแง่ของการบริหารประเทศ อาจเป็นการดีหากท่านใช้อำนาจในการเร่งรัดแก้ไขปัญหาต่างๆที่ค้างคาสะสมจากการทำงานอันล่าช้าของหน่วยงานต่างๆรวมไปถึงงานด้านนโยบาย โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ที่ทางท่านรมว.คลังได้ออกมายอมรับว่าไม่ต้องหวังจะเห็น GDP ที่เกิน 4% ด้วยปัจจัยภายในประเทศที่หนักหนาสาหัส การเลิกจ้างงาน หนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 80% การส่งออกที่แย่ลง การท่องเที่ยวมีปัญหา ราคาสินค้าเกษตรซึ่งเป็นปากท้องของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศตกต่ำ สรุปง่ายๆว่า สาหัสในทุกมิติ คงต้องหวังว่าดาบอาญาสิทธิ์ของท่านนายกฯจะมาช่วยแก้ไขปัญหาและเรียกความเชื่อมั่นกลับมาสู่ประเทศได้

o ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงมีการเคลื่อนไหวผันผวนไปตามจิตวิทยาตลาดที่ยากจะคาดเดา โดยส่วนใหญ่เจอแรงขายทำกำไรหลังจากปรับตัวบวกได้อย่างร้อนแรงในวันก่อนหน้า ส่วนปัจจัยต่างๆที่ยังกดดันดูเหมือนจะเป็นเพียงเหตุที่รอมาใช้อธิบายผลในภายหลัง
• ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯล้วนปรับตัวลง ไม่ว่าจะเป็น DJIA ที่ปิดลดลง 1.11% ดัชนี NASDAQ ติดลบไป 0.94% และดัชนี S&P500 ปิดติดลบ 0.88% จากความกังวลต่อตัวเลขข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาแย่กว่าคาด ไม่ว่าจะเป็นดัชนีราคาบ้านทั่วสหรัฐฯ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกที่ออกมาต่ำสุดในรอบเกือบแปดปี
• ด้านดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดปรับตัวลง 0.64% ภายหลังจากที่ทางยูโรสแตทเปิดเผยตัวเลขการว่างงานออกมาลดน้อยลงกว่าที่คาด ทำให้เกิดความกังวลต่อตลาดแรงงานที่ดูจะอ่อนแอลง อีกทั้งอัตราเงินเฟ้อยังออกมาเป็นตัวเลขติดลบถือเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อบริษัทเอกชนต่างๆ
• ฟากตลาดหุ้นญี่ปุ่น ดัชนี Nikkei เจอแรงขายทำกำไรในวันสุดท้ายปิดไตรมาส กดดันดัชนีปิดติดลบไป 1.05% แม้ช่วงแรกจะสามารถเปิดตัวบวกได้ตาม Sentiment ของสหรัฐฯ
• ส่วนดัชนี SHCOMP หลังจากที่ขานรับปัจจัยบวกจากนโยบายของภาครัฐมาอย่างต่อเนื่องจนปรับตัวร้อนแรงเกินห้ามใจก็ต้องเจอแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง ทำให้ดัชนีปรับตัวลดลง 1.02%

o ดัชนี SET ตลาดหุ้นไทยได้รับ Sentiment เชิงบวกจากภูมิภาคทำให้เปิดตลาดในแดนบวกและมีแรงซื้อเข้ามาคอยหนุนดัชนีไว้ตลอดทั้งช่วงเช้า จนช่วงบ่ายที่มีประเด็นบวกขานรับการยกเลิกกฏอัยการศึก และเตรียมใช้มาตรา 44 แทน ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาช่วยดันดัชนีฝ่าผ่านแนวต้าน 1504 จุดไปได้และหนุนให้ดัชนีไปปิดตัวที่ 1505.94 จุด บวกไปได้ 9.43 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ยังเบาบาง 35,904 ล้านบาท แรงซื้อที่เข้ามานำโดยต่างชาติที่รอจังหวะอยู่นาน 1,031 ล้านบาท ตามด้วยสถาบัน ที่มีการทำ Window Dressing และเม็ดเงิน Trigger Fund เริ่มได้โอกาสใช้เงินอีก 553 ล้านบาท ส่่วนนักลงทุนทั่วไปเลือกขายทำกำไรหรือตัดขาดทุนลดความเสี่ยงออกไป 1,123 ล้านบาท ตามด้วยโบรคเกอร์ที่เน้นถือกำไรไว้ก่อน 462 ล้านบาท กลุ่มหุ้นที่หนุนให้ดัชนีบวกได้สดใสล้วนเป็นกลุ่มใหญ่เป้าหมายของต่างชาติและสถาบัน ไม่ว่าจะเป็น Energy Bank และที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากนโยบายภาครัฐที่น่าจะเร็วขึ้นอย่าง Cons ทำให้ Sentiment ตลาดในระยะสั้นฟื้นตัวจากอาการที่ใกล้โคม่ามาได้ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีไว้ที่แนวรับ 1495 จุดและแนวต้าน 1510 – 1520 จุด
• ในทางเทคนิค การที่ดัชนีกลับมาสร้างแท่งเทียนสีเขียวข้ามผ่านเส้นค่าเฉลี่ย EMA5 ขึ้นมาได้หลังจากเกิด Pattern ของ Hammer เขียวเมื่อสองวันก่อน อีกทั้ง Indicator ต่างๆ ทั้ง RSI MACD Modified Stochastic เริ่มมีการยกตัวขึ้นแม้จะเป็นสัญญาณอ่อนๆ ทำให้พอคาดหวังการฟื้นตัวต่อเนื่องในระยะสั้นได้ แต่ด้วย Volume ที่ยังเบาบาง จึงมองว่าเป็นเพียงการ Techical Rebound ในโครงสร้างขาลงจนกว่าจะมี Volume เข้ามาสนับสนุนอย่างโดดเด่นระดับ 4 -5 หมื่นล้านและกลับไปยืนเหนือ 1530 จุดได้อย่างมั่นคง โดยมองแนวรับทางเทคนิคไว้ที่ 1500 – 1495 จุดและ 1492 จุด ส่วนแนวต้านจะเป็น 1511 – 1515 จุดและ 1520 จุด

o ในสภาวะที่เป็นการ Technical Rebound หากยังอยากจะเข้ามาลงทุนให้บริหารหน้าตักให้ดี และมีการใช้เครื่องมือทางเทคนิคช่วยประเมินจุดซื้อ/ขาย รวมทั้งจุด Cut Loss ในกรณีผิดทางทุกครั้งก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ สำหรับท่านที่ยังมีหุ้นในพอร์ตอาจเป็นจังหวะที่จะผ่องถ่ายคลายความเครียดที่สั่งสมมา ขอให้ทุกท่านโชคดีในการลงทุนรับวันแรกของเดือนเมษายนครับ #MT8

วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2558

เปิดโผ 4 หุ้นซุ่มโตเงียบ กำไรเด่น-อัพไซด์เพียบ! 2015-03-31 08:49:00

เปิดโผ 4 หุ้นซุ่มโตเงียบ
กำไรเด่น-อัพไซด์เพียบ!
2015-03-31 08:49:00

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจหุ้นที่มียอดขายและผลกำไรสุทธิเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตลอด5 ปีที่ผ่านมา (2553-2557) และยังเป็นหุ้นที่มีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้ (2558) โดยผลจากการสำรวจข้อมูลผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงเวลาดังกล่าวพบว่า มีอยู่ 4 บริษัทที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าว และถือเป็นหุ้นอีกกลุ่มหนึ่งที่มีความน่าสนใจสำหรับการลงทุนในภาวะตลาดหุ้นผันผวน

เริ่มต้นที่หุ้นตัวแรกคือ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BIGC ซึ่งมียอดขาย-ผลกำไรสุทธิ ตั้งแต่ งวดปี 2553 ถึง งวดปี 2557 ตามลำดับ ดังต่อไปนี้ 7.45 หมื่นล้านบาท2.89 พันล้านบาท ในปี 2553 เพิ่มเป็น 1.10 แสนล้านบาท5.24 พันล้านบาทในปี 2554 เพิ่มเป็น 1.20 แสนล้านบาท6.07 พันล้านบาท ในปี 2555 เพิ่มเป็น 1.27 แสนล้านบาท6.98 พันล้านบาท ในปี 2556 และล่าสุดเพิ่มเป็น 1.31 แสนล้านบาท7.24 พันล้านบาท ในปี 2557

ด้านราคาหุ้น BIGC วานนี้ (30 มี.ค.) ปิดที่ระดับ 229.00 บาท ปรับตัวขึ้น 2.00 บาท หรือ 0.88% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 61.97 ล้านบาท ขณะที่โบรกเกอร์ให้ราคาเหมาะสมโดยเฉลี่ยที่ระดับ 256 บาท

หุ้นตัวที่สองคือ บริษัท ดีคอนโปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ DCONซึ่งมียอดขาย-ผลกำไรสุทธิ ตั้งแต่ งวดปี 2553 ถึง งวดปี 2557 ตามลำดับ ดังต่อไปนี้ 739 ล้านบาท71 ล้านบาท ในปี 2553 เพิ่มเป็น 821 ล้านบาท84 ล้านบาท ในปี 2554 เพิ่มเป็น 1.03 พันล้านบาท146 ล้านบาท ในปี 2555 เพิ่มเป็น 1.31 พันล้านบาท215 ล้านบาท ในปี 2556 และล่าสุดเพิ่มเป็น 1.86 พันล้านบาท329 ล้านบาท ในปี 2557

ด้านราคาหุ้น DCON วานนี้ (30 มี.ค.) ปิดที่ระดับ 1.86 บาท ปรับตัวขึ้น 0.06 บาท หรือ 3.33% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 38.92 ล้านบาท ขณะที่โบรกเกอร์ให้ราคาเหมาะสมโดยเฉลี่ยที่ระดับ 2.00 บาท

หุ้นตัวที่สามคือ บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ PREBซึ่งมียอดขาย-ผลกำไรสุทธิ ตั้งแต่ งวดปี 2553 ถึง งวดปี 2557 ตามลำดับ ดังต่อไปนี้ 1.93 พันล้านบาท62 ล้านบาท ในปี 2553 เพิ่มเป็น 3.13 พันล้านบาท107 ล้านบาท ในปี 2554 เพิ่มเป็น 4.09 พันล้านบาท189 ล้านบาท ในปี 2555 เพิ่มเป็น 6.01 พันล้านบาท261 ล้านบาท ในปี 2556 และล่าสุดเพิ่มเป็น 6.17 พันล้านบาท306 ล้านบาท ในปี 2557

ด้านราคาหุ้น PREB วานนี้ (30 มี.ค.) ปิดที่ระดับ 14.40 บาท ปรับตัวขึ้น 0.30 บาท หรือ 2.13% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.66 ล้านบาท ขณะที่โบรกเกอร์ให้ราคาเหมาะสมโดยเฉลี่ยที่ระดับ 20.00 บาท

หุ้นตัวสุดท้ายคือ บริษัท ออฟฟิศเมท จำกัด (มหาชน) หรือ OFMซึ่งมียอดขาย-ผลกำไรสุทธิ ตั้งแต่ งวดปี 2553 ถึง งวดปี 2557 ตามลำดับ ดังต่อไปนี้ 1.05 พันล้านบาท35ล้านบาท ในปี 2553 เพิ่มเป็น 1.26 พันล้านบาท46ล้านบาท ในปี 2554 เพิ่มเป็น 6.68 พันล้านบาท287ล้านบาท ในปี 2555 เพิ่มเป็น 8.51 พันล้านบาท409ล้านบาท ในปี 2556 และล่าสุดเพิ่มเป็น 9.21 พันล้านบาท439ล้านบาท ในปี 2557

ด้านราคาหุ้น OFM วานนี้ (30 มี.ค.) ปิดที่ระดับ 59.00 บาท ปรับตัวลง0.25 บาท หรือ 0.42% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 20.09 ล้านบาท ขณะที่โบรกเกอร์ให้ราคาเหมาะสมโดยเฉลี่ยที่ระดับ 60.00 บาท

โดยหุ้นทั้ง 4 ตัวข้างต้น ถือเป็นหุ้นที่มีธุรกิจมั่นคงมีการขยายตัวที่แข็งแกร่งมาก โดยสามารถวัดได้จากผลประกอบการที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเกิดขึ้นหลายครั้ง ทั้งน้ำท่วมใหญ่ช่วงปี 2554 เหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองภายในประเทศ และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่า ผลกำไรสุทธิของแต่ละบริษัทมีอัตราการเติบโตที่สูงกว่าอัตราการเติบโตของยอดขาย ซึ่งนั่นหมายถึงว่า บริษัทมีการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี และมีประสิทธิภาพมากขึ้นทุกปี

ข่าวทันหุ้น

หุ้นเทคนิคเด่น - บล.เอเซียพลัส


CPF ไก่อวบ แนวรับ 21.30 บาท แนวต้าน 22.50 บาท

ประเด็นวิเคราะห์:

- CPF หลังจากสามารถสร้างฐานได้ที่ 21.30 บาท ล่าสุดก็เริ่มทำจังหวะดีดตัวขึ้นมาได้จนมาปิดที่ 21.80 บาท ด้วย Volume ที่เข้ามาสูงสุดในรอบสัปดาห์ พร้อมกับเกิดสัญญาณบวกจาก SMA 5 วัน พลิกกลับมาตัดเส้น SMA10 วัน สะท้อนถึงราคาที่กำลังเข้าสู่ช่วงแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้นได้เป็นอย่างดี

- ขณะที่ MACD ล่าสุดที่กลับมายืนเหนือเส้น Signal Line ได้แล้ว น่าจะทำให้ราคาอยู่ใน Momentum ขาขึ้นระยะสั้น เพื่อทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 22.50 บาท

- ซื้อ โดยมีเป้าหมายทำกำไรระยะสั้นที่ 22.50 บาท

หุ้นซิ่งสาย 8 เก็งกำไรเทคนิคล้วนภาคเช้า 2015-03-31 09:13:00

หุ้นซิ่งสาย 8 เก็งกำไรเทคนิคล้วนภาคเช้า
2015-03-31 09:13:00


ฝ่ายวิเคราะห์ บล. เคทีบี (ประเทศไทย) แนะหุ้น IRPC ซื้อเก็งกำไร แนวรับ 4.14-4.20 บาท แนวต้าน 4.40-4.50 บาท

GENCO ซื้อเก็งกำไร แนวรับ 3.46-3.54 บาท แนวต้าน 3.85-3.98 บาท

MPG ซื้อเก็งกำไร แนวรับ 2.16-2.20 บาท แนวต้าน 2.40-2.50 บาท

3 เซียนปักปากกา SET ปลายเดือนเมษามีเฮ! 2015-03-31 08:34:00

3 เซียนปักปากกา SET ปลายเดือนเมษามีเฮ!
2015-03-31 08:34:00


SET เดือนเมษายน จะเสี่ยงหรือไปต่อ จะรุ่งหรือร่วง เหล่าโบรกฯมีคำตอบ

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ได้คัดเลือกบทวิเคราะห์แนวทางดัชนีในเดือนเมษายนจากเหล่าบรรดาโบรกเกอร์ เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นในการศึกษาทิศทางดัชนี ดังนี้

โดยบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน)ระบุในบทวิเคราะห์   (30มี.ค.) มุมมองตลาดเดือน เม.ย. SET มีโอกาสปรับตัวในกรอบ 1,440-1,560 จุด ให้น้ำหนักทางลงก่อน เนื่องจาก 1) การประกาศตัวเลขศก.มีแนวโน้มปรับลง 2) ระดับ Consumer Confidence ที่ปรับลงแรง ทั้งในภาคเศรษฐกิจจริงและตลาดการเงิน

SET บริเวณ 1,440 จุด คือ จุดที่คาดหวัง Relief Rally เป็นโซนที่ 1) ตลาดปรับตัวลงครบ 12% 2) SET จะกลับมาซื้อขายที่บริเวณ Fwd PE 14x และมีค่าสถิติที่คาดหวังการฟื้นตัว และ 3) เป็นจุดที่มี Upside ของนักลงทุนสถาบันหลังลดพอร์ทบริเวณ 1,540 จุด

กลยุทธ์การลงทุนในระยะสั้น ยังเน้นรักษา NAV และหาหุ้นที่ Outperform ตลาดรายตัว แต่ยังไม่ใช่จุดที่จะสร้าง Turning Points เพื่อแก้พอร์ท เนื่องจากปริมาณซื้อขายที่หดตัว สะท้อน Liquidity Risk ของตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น

Investment Strategy

          เน้นเลือกหุ้น High Alpha ที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนหรือ Outperform ตลาดได้ดีกว่าหุ้นตัวอื่นในช่วงตลาดปรับตัวลง

          หุ้นที่ให้ค่า High Alpha สูงในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา ได้แก่ SAMTEL, AUCT, TASCO, OFM, BLA กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL, MINT) และกลุ่ม Food (CBG, MALEE)

          หุ้นที่ราคาเข้าสู่โซนที่มี Margin of Safety สูง ที่เราหาโอกาสซื้อกลับ ได้แก่ ADVANC (ซื้อบริเวณ 227-229) AP (ซื้อบริเวณ 6.5-6.8)

 

ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคเคเทรด จากัดระบุในบทวิเคราะห์   (30มี.ค.)กลยุทธ์การลงทุนประจำเดือน เม.ย. 2558

แนวโน้มตลาดหุ้น ประเมินว่า SET ยังมีความเสี่ยงต่อการปรับฐานตลอดทั้งเดือน เม.ย. โดยคาดกรอบ SET ไว้ที่ 1,460 – 1,560 จุด จากปัจจัยกดดันในประเทศเป็นหลักด้วย SET ณ ระดับปัจจุบันซื้อขายที่ 21x Trailing P/E ระดับแพงสุดในรอบ 5 ปี มีความเสี่ยงต่อการปรับพอร์ตของนักลงทุนระยะกลางหลัง หลังมีหุ้นทยอยขึ้น XD ราว 160 ตัวใน เดือน เม.ย. รวมถึงหุ้นกลุ่มธนาคารมีโอกาสถูกปรับลดประมาณการกำไรลงมาในช่วงก่อน/หลังการประกาศงบ 1Q58 (เริ่มประกาศงบราวกลางเดือน เม.ย.) ผลจากการเติบโตของสินเชื่อค่อนข้างอ่อนแอ

รวมถึงการฟื้นตัวของ GDP ช้ากว่าคาดและมีแนวโน้มถูกปรับลงในระยะต่อไป ขณะเดียวกันหุ้นกลุ่มที่อิงกับการเติบโตในประเทศ (Domestic Play) อาทิ ค้าปลีก โรงพยาบาล อาหารเครื่องดื่ม ก็มีความเสี่ยงต่อการถูกทบทวนประมาณการเช่นเดียวกัน ด้านภูมิภาคเชื่อว่าช่วงใกล้การประชุม FOMC ครั้งต่อไป 28-29 เม.ย. ความวิตกต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของเฟดจะกลับมากดดันความเชื่อมั่นตลาดอีกครั้ง อย่างไรก็ตามการปรับตัวลงของ SET จะมีโอกาสปรับขึ้นมาได้เป็นระยะๆจากข่าวการออกกองทุน Trigger Fund ของนักลงทุนสถาบัน รวมถึงความคืบหน้าการทำ QE ของ ECB

ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม (1) 3 เม.ย. สหรัฐประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-farm payroll) และอัตราว่างงานเดือนมี.ค. หากดีกว่าเดือนก่อน (การจ้างงานสูงกว่า 2.75 แสนตำแหน่ง หรืออัตราว่างงานต่ำกว่า 5.5% จะสนับสนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐในเดือนมิ.ย.) จะเป็นจิตวิทยาเชิงลบต่อตลาด โดยผลการประชุม FOMC วันที่ 29 เม.ย.จะยืนยันมุมมองเฟดต่อการเปลี่ยนนโยบายอัตราดอกเบี้ย และจะมีนัยต่อทิศทางตลาด (2) กลางเดือน เริ่มประกาศงบ 1Q58 ของกลุ่มธนาคาร ระวังการขายทำกำไรหุ้นกลุ่มนี้

 โดยเฉพาะหลังการขึ้น XD ของหุ้นธนาคารขนาดใหญ่อาจมีการขายทำกำไรของนักลงทุนระยะกลาง (3) ปลายเดือน การประกาศตัวเลขส่งออกไทยเดือนมี.ค. หากยังคงติดลบต่อเนื่อง จะส่งผลต่อคาดการณ์เชิงลบต่อการฟื้นตัวของ GDP และกำไรบริษัทจดทะเบียน  (4) ราคาน้ำมันดิบ Brent หากยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่า US$60 ต่อบาร์เรล จะคงกดดันจิตวิทยาการลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยความไม่สงบในเยเมนเป็นปัจจัยหนุนทิศทางราคาน้ำมันดิบเพียงระยะสั้น และ (5) ทิศทางกระแสเงินต่างชาติ หากยังอยู่ในฝั่งซื้อสุทธิ รวมถึงเงินบาทมีทิศทางแข็งค่าขึ้นจะบ่งบอกเงินไหลเข้าจะสนับสนุนจิตวิทยาการลงทุนและหากอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรยังคงปรับลดลงจะเป็นบวกต่อ SET

 

บล.เคที ซีมิโก้ ระบุในบทวิเคราะห์   (30มี.ค.)สำหรับเดือน เม.ย.

Recommend Stocks: AAV AOT STEC TMB MTLS DEMCO SPALI SEAFCO SMPC CSS (ดูรายละเอียดในเล่ม) โดยลดน้ำหนักหุ้นเหลือ 50%จาก 80% ละเปิดสัญญา Short 10% ของพอร์ต April Statistic : สถิติย้อนหลัง 10 ปี (ปี 48-57) พบว่ามีโอกาส 80% ที่ดัชนีฯ เดือน เม.ย. ปิดปรับขึ้น ด้วยอัตราผลตอบแทนเฉลี่ย +3.02%m-m โดย Max +13.95% (ปี 52) Min -3.32% (ปี 48) ขณะที่เดือน พ.ค. และมิ.ย. ให้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย +0.1%m-m และ +0.5%m-m ตามลำดับ

Fund Flow: สถิติเดือน เม.ย. ย้อนหลัง 10 ปี (ปี 48-57) พบว่า นักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ซื้อสุทธิเฉลี่ย +4.95 พันลบ. แต่กลับมาขายเดือน พ.ค. -13.6 พันลบ. และเดือน มิ.ย. -7.4 พันลบ. Catalysts: 1. จีน-ญี่ปุ่น-ยุโรป-ไทย อาจออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม 2. แรงซื้อจากทริกเกอร์ฟันด์กองใหม่ๆ 3.ระดับราคาหุ้นที่เริ่มเข้าสู่ระดับถูก ตามปัจจัยพื้นฐาน

Outlook: คาดดัชนีฯ เดือน เม.ย. ปรับตัวลดลง แนวรับ 1450/1430 จุด แนวต้าน 1530 จุด ด้วยวอลุ่มชะลอตัว ท่ามกลางเทศกาลหยุดยาว และแรงกดดัน ซึ่งมาจากปัจจัยในประเทศ อาทิ การปรับลดประมาณการเติบโตของเศรษฐกิจ หลังรายงานเดือน ม.ค. – ก.พ. อ่อนแอกว่าคาด (ส่งผลลบต่อการปรับลดเป้าหมายกำไรบจ. รอบใหม่) ร่างรธน. ฉบับใหม่ จะได้รับการเห็นชอบจากสภาหรือไม่ (เพิ่มความเสี่ยงต่อการเลือกตั้งใหม่) และ XD effect

ขณะที่ปัจจัยกดดันจากต่างประเทศ มาจาก 1) ความกังวลต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด จับตาผลประชุมเฟดเดือน เม.ย. หากมีการส่งสัญญาณเร่งขึ้นดอกเบี้ยจะเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นโลก 2) การประกาศผลประกอบการบจ. โดยตลาดวิตกว่า บจ. สหรัฐจะมีกำไรหดตัวในไตรมาสแรกปีนี้ จากการแข็งค่าของเงินดอลล์และการดิ่งลงของราคาน้ำมันดิบ ส่วนปัจจัยหนุนคาดมาจาก ความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของจีน/ไทย และการออกทริกเกอร์ฟันด์กองใหม่ๆ เมื่อดัชนีฯ ปรับตัวลง

มุมมองของ ดร.วิศิษฐ์ จากงานสัมมนา FunfFlow Q2 58

มุมมองของ ดร.วิศิษฐ์ จากงานสัมมนา FunfFlow Q2 58
Set จะ Rally ในปลาย เม.ย. หลัง (8 เม.ย.) 80-90 จุด เป้า 1581 (คิดจาก EPS SET2016 และ 10Y-US ที่ 1.9%) และจะปรับตัวลงอีกครั้งในปลาย พ.ค.
• DXYO จะหยุดขึ้นชั่วคราว Flow จะไหลกลับ EM
• มี Trigger Fund ก่อนใหม่เข้ามา 4-5 กอง
• ดอกเบี้ย RP จะลดลงอีก 0.25% ไปสู่ 1.5% เนื่องจาก Real Policy Rate อยู่ในระดับสูง
• Minute จะออกมาในภาษานกพิราบ
เงิน EURO จะแข็งค่าขึ้นเนื่องจากค่าเงิน EURUSD สะท้อนส่วนต่างของพันธบัตร US10Y – Bund10Y แล้ว
มองว่า Fed จะไม่ขึ้นดอกเบี้ยในเดือน Jun ทำให้เงินที่ Position ไปแล้ว ต้องกลับมาเข้าตลาดหุ้น ทำให้หุ้นขึ้นในเดือน July - Oct นำโดยกลุ่ม Energy
มองว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในต้นปี 2016 แบบเร็วและแรง จะทำให้หุ้นลงหนักอีกครั้งใน Dec-15
การที่ Real Policy Rate อยู่ในอัตราสูง ทำให้มีโอกาสลดดอกเบี้ย RP อีกครั้งหนึ่ง ส่งผลดีต่อกลุ่ม Property
น้ำมันเป็น Contango เนื่องจากเป็นปัญหาด้าน Supply Side มองว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวขึ้นใน กลางปี 2015 โดยให้ติดตามการประชุม Opec
หุ้นที่น่าสนใจ
กลุ่มที่จะเข้า Set 50 BLA , TPIPL , ITD , SUPER , WHA ,BMCL
หุ้นน่าสนใจ SCN , PTG CPF ,CFALL ,MPG (Downside Limit) , Focus (เก็งกำไรงบ)
Conclude By Bank

หุ้นสายการบินระส่ำ! "บิ๊กตู่"จ่อใช้ม.44แก้ 31/3/58 ข่าวหุ้น

หุ้นสายการบินระส่ำ!
"บิ๊กตู่"จ่อใช้ม.44แก้
31/3/58 ข่าวหุ้น

หุ้นสายการบินระส่ำ ราคาร่วงหนัก หลัง ICAO ชี้บพ.ทำงานไม่ได้มาตรฐาน ญี่ปุ่นสั่งชะลอเพิ่มเที่ยวบิน ตามมาด้วย จีน-เกาหลีใต้ไม่อนุมัติชาร์เตอร์ไฟลต์ไทยเข้าประเทศ ฟาก "บิ๊กตู่" สบช่องใช้มาตรา 44 รธน.ชั่วคราวปี 57 แก้ปัญหา

สำหรับสายการบินที่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว แบ่งเป็นสายการบินที่ให้บริการสู่ประเทศญี่ปุ่นประเภทเที่ยวบินประจำ คือ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV นกสกู๊ต และไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ที่ไม่สามารถขอเปิดเส้นทางบินใหม่สู่ซับโปโรได้  ประเภทชาร์เตอร์ไฟลต์ 2 สายการบิน คือ เอเชีย แอตแลนติก และเจ็ทเอเชีย

ประเทศจีน มีแบบเที่ยวบินประจำ คือ THAI, AAV, บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK และแบบชาร์เตอร์ไฟลต์ คือ AAV, โอเรียลไทย, สกายวิว, สบายดี แอร์เวย์ 

ส่วนเกาหลีใต้ คือ THAI และไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ซึ่งขณะนี้สายการบินแบบเที่ยวบินประจำยังไม่ได้รับผลกระทบมากนักเพราะสามารถให้บริการตามตารางบินเดิมได้ แต่ชาร์เตอร์ไฟลต์ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก โดยกระทรวงคมนาคมพยายามประสานให้ผู้โดยสารที่ซื้อทัวร์เดินทางแล้วกระจายการเดินทางไปยังสายการบินที่เป็นเที่ยวบินประจำ หรือสายการบินต่างชาติแทน

วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2558

Market Outlook 30 มี.ค.58 พิชัย เลิศสุพงศ์กิจ T


Market Outlook 30 มี.ค.58
พิชัย เลิศสุพงศ์กิจ TNS
 
การพักฐานของ SET ยาวนานและลึกกว่าที่คาด เหตุเศรษฐกิจไทยฟื้นล่าช้า โดยเฉพาะภาคการส่งออกที่อ่อนแอ การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐฯ ที่ล่าช้า นอกจากนั้น ตลาดหุ้นต่างประเทศยังผันผวน จากความกังวลต่อปัญหาหนี้กรีซ ความเสี่ยงที่เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้
 
อย่างไรก็ดี SET มีโอกาสเด้งสั้น โดยมีแนวต้าน 1510 จุด หนุนโดย

1) นายกฯ จ่อยกเลิกกฎอัยการศึก โดยจะใช้ ม.44 รธน.ชั่วคราวควบคุมความสงบแทน คาดส่งผลบวกต่อหุ้นท่องเที่ยว ยังชอบ AOT ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 380 บ. และระยะสั้นที่ 300-304 บ.

2) ทริกเกอร์ฟันด์มูลค่า 5-6 พันล้านบาท เริ่มเข้าซื้อหุ้น

3) ตลาดคลายวิตกต่อสถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลาง โดยมองว่าความขัดแย้งดังกล่าวจะไม่ส่งผลมากนักต่ออุปทานและการขนส่งน้ำมัน  น้ำมันดิบเบรนท์เมื่อวันศุกร์-2.78$ ปิดที่ 56.41$/บาร์เรล

4) ครม.อนุมัติแผนคมนาคม 8 ปี ลงทุน 1.9 ล้านล้านบาท เฉพาะปี 58 วงเงิน 8.4 แสนล้านบาท
 
พอร์ตเทรดดิ้งแนะใช้เป็นจังหวะขายทำกำไร แล้วค่อยหาจังหวะซื้อคืน แถวแนวรับ 1480+/-จุด
 
ปัจจัยที่ต้องติดตามได้แก่ ตัวเลขเศรษฐกิจเดือน ก.พ.ในวันอังคาร และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ ในช่วงปลายสัปดาห์ที่จะมีผลต่อการขึ้นดอกเบี้ยเฟดในอนาคต

PSUM> สรุปข่าว หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น ฉบับวันที่ 30 มี.ค. 2558

PSUM> สรุปข่าว หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น ฉบับวันที่ 30 มี.ค. 2558

ตลาดหุ้นไทยขานรับ ยกเลิก"กฎอัยการศึก" CLSAยันฝรั่งลงทุนเพิ่มแนะหุ้นท่องเที่ยว-โรงแรม
ผู้บริหารโบรกฯขานรับ "ยกเลิกประกาศกฎอัยการศึก" ฟื้นความเชื่อมั่นนักลงทุนและตลาดทุน ระบุสถิติ 4 ปีย้อนหลังดัชนีหุ้นฟื้นหลังสงกรานต์ สัปดาห์นี้จับตาคิวอียุโรป 6 หมื่นล้านบาท ยูโรดันตลาดคึก หากยืนเหนือ 1,505 จุดส่งสัญญาณไปต่อ ด้าน บล.ซีแอลเอสเอ ยันกองทุนต่างชาติลงทุนเพิ่มแน่นอน แนะ CENTEL, MINT และ CPALL

ครม.ไฟเขียวแผนคมนาคม 8ปีลงทุน1.9 ล้านล้านบาท
ครม.ไฟเขียวแผนลงทุนคมนาคม 8 ปี วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท สตาร์ท Action Plan เฉพาะปี 2558 ก่อน 59 โครงการ วงเงิน 8.4 แสนล้านบาท กสทช.พร้อมประมูลคลื่น 4 จีทันที หลังคำสั่งระงับของคสช.หมดอายุเดือนก.ค.ปีนี้

UAC ขยับรายได้ ปีนี้ 1.5พันล้าน อานิสงส์บุ๊คAPC
"UAC" ปรับเพิ่มเป้ารายได้ปีนี้ใหม่เป็น 1,500 ล้านบาท เหตุจ่อบุ๊ครายได้จาก APC เข้ามาปีนี้ 400 ล้านบาท และโซลาร์รูฟ ทุ่มงบลงทุนปีนี้ 1,000 ล้าน จับมือ QTC ซื้อโรงไฟฟ้าชีวมวลสรุป Q2 ฟาก "กิตติ" ปัด IFEC เจรจาซื้อหุ้น HYDRO

ADVANCลุ้นกำไร9.7พันล. รับรายได้ขายมือถือพุ่ง54%
ADVANC ลุ้น Q1/58 กำไรสุทธิพุ่ง 9,735 ล้านบาท อานิสงส์รายได้ขายเครื่องมือถือโตถึง 54% แถมรายได้บริการโต 7% ส่วนกำไรสุทธิปีนี้โต 17% แตะ 42,812 ล้านบาท โบรกฯแนะซื้อเป้า 320 บาท ฟาก INTUCH วันนี้โอกาสสุดท้ายซื้อหุ้นได้ปันผล 2.23 บาท

PTTลดลงทุนคลังLPG ผวาเศรษฐกิจโลกซึม!
ปตท.หวั่นเศรษฐกิจโลกซึม ปรับลดการลงทุนก่อสร้างคลังนำเข้า LPG (ระยะที่ 2) พร้อมปรับลดงบลงทุน 5 ปีเหลือ 298,700 ล้านบาท จากเดิม 326,551 ล้านบาท โบรกเกอร์เชื่อกำไร PTT ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว ปีนี้ลุ้นกำไร 96,000 ล้านบาท ราคาพื้นฐาน 398 บาท

BM ลุยงานเพิ่มรายได้ เล็งตั้งโรงงานในพม่า จ่อยื่นไฟลิ่งเข้า"mai"
BM เปิดโรงงานใหม่-นำเข้าเครื่องจักรเพิ่ม ลุยงานแปรรูปเหล็กทุกรูปแบบ ตั้งเป้าผลิตเครื่องจักกลการเกษตรขายประเทศ AEC เล็งตั้งโรงงานเหล็กประเทศเพื่อนบ้าน ประเดิมแห่งแรกที่พม่า เตรียมยื่นไฟลิ่งเข้าตลาด mai เร็วๆนี้

SITHAIรายได้ปีนี้พุ่ง1.1หมื่นล้าน ทุ่ม1.5พันล้านขยายกำลังผลิตในไทย-เวียดนาม
"SITHAI" ตั้งเป้ารายได้โต 12% แตะ 1.1 หมื่นล้านบาท ลุยขยายช่องทางขายทั้งในประเทศ-ต่างประเทศ ขณะที่ทุ่มงบ 1.5 พันล้านบาท ขยายกำลังผลิตในไทย-เวียดนาม เล็งนำ "ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ เวียดนาม" เข้า ตลท. ช่วงครึ่งหลังของปีนี้

"AI"โดนตลท.สั่งแขวนSP-NP ผู้สอบบัญชีไม่ลงความเห็นงบปี57
ตลท.สั่งแขวนเครื่องหมาย SP และ NP หุ้น AI เหตุผู้สอบบัญชีไม่แสดงความคิดเห็นต่องบการเงินปี 57 ชี้ตัวเลขผลการดำเนินงาน และฐานะการเงินไม่แสดงค่าที่แท้จริงของกิจการ ขณะงบปี 57 แจ้งมีกำไรสุทธิ 331 ล้านบาท เติบโต 25.35%

BA-MTLS-CKPลุ้นเข้าSET100 รอบครึ่งหลังปีนี้ โบรกฯส่องคุณสมบัติเข้าเกณฑ์
"BA-MTLS-CKP" มีลุ้นถูกเลือกเข้าคำนวณในดัชนี SET100 ช่วงครึ่งหลังปีนี้ เหตุมีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ SET100

LOXLEYจับมือแวนการ์ดฯ เปิดมุมสินค้าไทยที่ฮ่องกง 6เดือนเป้าส่งออก100ล.
"ล็อกซเล่ย์" จับมือแวนการ์ดซุปเปอร์มาร์เก็ต ฮ่องกง เปิดไทยคอร์เนอร์ นำผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยกว่า 100 ราย บุกตลาดฮ่องกง วางเป้า 6 เดือนสร้างมูลค่าส่งออกไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท

บริษัทร่วมทุนDNAเอาใจคอหนัง บริการดูหนังออนไลน์ราคาถูก
"Primetime" บริษัทร่วมทุน DNA เปิดบริการทีวีออนไลน์แบบออนดีมานด์ ขนภาพยนตร์ใหม่-ซีรีย์ดังถูกลิขสิทธิ์จาก 6 ค่ายภาพยนตร์ชั้นนำฮอลลีวูด เอาใจคอหนัง-ซีรีย์ชาวไทย ด้วยแพ็กเกจดูหนังออนไลน์เริ่มต้นเพียง 199 บาทต่อเดือน

สีแดงสัญญา3งบบานปลาย ร.ฟ.ท.จ่อชงครม.ขอเพิ่มวงเงินอีก 4 พันล้าน
"ร.ฟ.ท." จ่อชง ครม. ขอเพิ่มวงเงินสร้างรถไฟสีแดงสัญญา 3 อีก 4,000 ล้านบาท คาดสรุปผลต่อรองกับผู้รับเหมาญี่ปุ่นพร้อมเสนอบอร์ดได้ในเดือนเม.ย.นี้

EMCลั่นปีนี้รายได้โต1,950ล้าน จ่อคว้างานก่อสร้าง 2 พันล้าน-ทั้งปีพลิกกำไร
"อีเอ็มซี" ลุยพัฒนาโครงการอสังหาฯ 8 โครงการ มูลค่ารวม  6,530 ล้านบาท จ่อเซ็นงานก่อสร้างอีก 2,000 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 2/58 ลั่นเป้ารายได้รวมปีนี้พุ่งแตะ 1,950 ล้านบาท มั่นใจทั้งปีพลิกมีกำไรสุทธิ เล็งเพิ่มทุนขาย PP ช่วง Q2

บลจ.ฯเปิด5หุ้นปันผลเด่น สถาบัน ตปท. รุมเก็บ BCP, QH และ DELTA
BCP, QH, DELTA, SAMART และ LPN เนื้อหอม สถาบันต่างประเทศรุมเก็บเข้าพอร์ตทำกำไรระยะยาว เหตุเติบโตดีจ่ายปันผลสูงต่อเนื่อง ล่าสุด บลจ.วรรณ เตรียมออกกองทุน Index Fund มูลค่า 700 ล้านบาทเน้นลงทุนหุ้นอาเซียนกลุ่มปันผล ด้านบลจ.แมนูไลน์ มั่นใจแผนการลงทุนบริษัทปีนี้ดัน AUM โต 20%

วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 27 มี.ค. 2558

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 27 มี.ค. 2558

เบรกโลว์คอสต์เพิ่มไฟลต์บินญี่ปุ่น เจซีเอบีสั่งเหตุไม่มั่นใจความปลอดภัย ประจินผิดหวังเรียกถกด่วนสัปดาห์หน้า
'ประจิน' รับผิดหวังหลังเจซีเอบีสั่งเบรกสายการบินจากไทย โดยเฉพาะเที่ยวบินเหมาลำไม่ให้เพิ่มเที่ยวบินไปญี่ปุ่น เม.ย.นี้ ชี้กระทบเที่ยวสงกรานต์ สัปดาห์หน้าเรียกถกด่วน นกสกู๊ตบ่ยั่นใช้ไลเซนส์ญี่ปุ่นบินแทน ทีทีเอเอเชื่อเป็นมาตรการสกัดทัวร์ด้อยคุณภาพ

'บีเจซี'อ้อนผู้ถือหุ้นซื้อเมโทรเวียดนาม
น.ส.นัทธ์หทัย ธนชัยหิรัญศิริ นักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือบีเจซี เปิดเผยว่า เตรียมงบลงทุน 4,000 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงและเสริมกำลังการผลิต เช่น บรรจุภัณฑ์ประเภทฝาและกระป๋อง เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นจากปีก่อน โดยในปีนี้ตั้งเป้ารายได้เติบโตกว่า 10% จากปีก่อนที่ทำได้ 44,217 ล้านบาท โดยจะมาจากการจำหน่ายสินค้าทั้งในและต่างประเทศ และคาดว่าอัตราการทำกำไรปีนี้จะดีขึ้นจากปีก่อนกว่า 3.80% เนื่องจากมีการควบคุมต้นทุน และได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงทำให้สามารถรับซื้อวัตถุดิบได้ในราคาที่ถูกลง

ปตท.ทบทวนแผนลงทุน5ปีเหลือแค่2.9แสนล้าน
นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกที่ผันผวนต่อเนื่อง ทำให้ไม่สามารถประเมินราคาน้ำมันต่ำสุดว่าจะเกิดขึ้นช่วงใดในปีนี้ ดังนั้น ปตท.จึงต้องทบทวนแผนลงทุนให้เหมาะสม โดยใน 5 ปี (2558-2562) นี้ ปตท.จะลดงบลงทุนจาก 320,000 ล้านบาท เหลือประมาณ 290,000 ล้านบาท และได้กำหนดให้บริษัทลูกทุกแห่งลดค่าใช้จ่ายลงให้ได้ 5-10% ส่วนความคืบหน้าการขายหุ้น 27% ในบริษัทบางจาก ปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) นั้นคณะกรรมการ (บอร์ด) ปตท.กำหนดขายให้กองทุน วายุภักษ์ 15.25% ที่เหลือให้ขายให้นักลงทุนรายอื่นล่าสุดได้เจรจาเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะสรุปได้ในไตรมาส 2 นี้ โดย ปตท.มีรายได้เข้ามาประมาณ 10,000 ล้านบาท

เปิด3โครงการร่วมสัญญาคุณธรรม หลังซื้อรถเมล์เอ็นจีวีคืบหน้า จ่ออีก5ให้กก.ป้องทุจริตอนุมัติ
นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการชุดดังกล่าวนัดแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้นที่ประชุมมีมติให้นำ 3 โครงการลงทุนของหน่วยงานภาครัฐเข้าทำสัญญาคุณธรรม เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่ากระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของโครงการลงทุนดังกล่าวเป็นไปอย่างโปร่งใส ประกอบด้วย โครงการลงทุนที่เข้าสู่กระบวนการสัญญาคุณธรรม คือ 1.โครงการลงทุนของกรมประชาสัมพันธ์วงเงินประมาณ 1 พันล้านบาท 2.โครงการลงทุนจัดซื้อเครื่องจักรของโรงงานยาสูบวงเงิน 7.4 พันล้านบาท และ 3.โครงการลงทุนจัดซื้อเครื่องเอกซเรย์สินค้าของกรมศุลกากรวงเงิน 1.3 พันล้านบาท รวมวงเงินลงทุนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท

สรุปข่าว หนังสือพิมพ์ทันหุ้น ฉบับวันที่ 27 มี.ค. 2558

สรุปข่าว หนังสือพิมพ์ทันหุ้น ฉบับวันที่ 27 มี.ค. 2558

EMCเปิดเกมรุกตลาดอสังหาควัก278ล้านฮุบStation One
EMC ลุยซื้อกิจการอสังหาริมทรัพย์ต่อเนื่อง หวังสร้างรายได้เร็วกว่าการลงทุนเอง ล่าสุดซื้อหุ้นบริษัท อิมพีเรียล แลนด์ จำกัด (IMP) จาก UWC มูลค่า 278 ล้านบาท เข้าบริหาร โครงการ "Station One @ China Town" คาดเปิดขายไตรมาส 2/2558 นี้ รับรู้รายได้ทันที

PLEบินลัดฟ้าผนึกทุนจีนคว้างานใหญ่รัฐ-บุกพลังงาน
PLE ได้ฤกษ์ผนึกยักษ์ใหญ่จีนพร้อมวางหมากตั้งบริษัทย่อยร่วมทุน หวังเข้าประมูลงานใหญ่ภาครัฐ และโปรเจ็กต์ใหญ่โรงไฟฟ้าที่พม่าและลาว คาดเห็นความชัดเจนภายใน Q2/2558 นี้ ส่วนปี 2558 ตั้งเป้ารายได้ทะลุ 1 หมื่นล้านบาท หลังงานเรียงคิวเพียบ จับตาทุนใหญ่ตบเท้าเจรจาขอเทกโอเวอร์โรงไฟฟ้าของบริษัท PPC นอนตีพุงบุ๊กกำไรพิเศษ 600-700 ล้านบาท

GCAPแตกไลน์สินเชื่อที่ดินฟันธงกำไรปีนี้พุ่งกระฉูด54%
GCAP จ่อแตกไลน์ธุรกิจรับจำนองที่ดิน ขยายช่องรับทรัพย์ก้อนโต คาดชัดเจน Q2/2558 ส่วนดีลคู่ค้าใหม่ต่างชาติ 2 ราย หวังสรุปกลางปีนี้ พร้อมคอนเฟิร์มปี 2558 ผลงานงอกงามรับไลน์ธุรกิจใหม่หนุนรายได้กระฉูด ฟากนักวิเคราะห์ เชียร์สอยเคาะเป้า 4.60 บาท ดีดลูกคิดปีนี้กำไรโตกระโดด 54% รับยอดปล่อยสินเชื่อทะยาน

หุ้นยานยนต์ฟื้นตัวแกร่งส่องกำไรปี58แตะ4.2พันล.
"กลุ่มยานยนต์" ฟื้นตัวแกร่ง โบรกส่องกำไร ปี 2558 แตะระดับ 4.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อนรับอานิสงส์ยอดขายในประเทศและยอดส่งออกฟื้นตัว ขณะที่ดอกเบี้ยขาลงและการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ช่วยหนุนตลาดในประเทศ พร้อมยก SAT และ AH โดดเด่นสุดในกลุ่ม จากธุรกิจที่ฟื้นตัวแกร่งและราคาหุ้นยังซื้อขายต่ำกว่ากลุ่ม

EGCOโตแข็งแกร่งโบรกแนะลงทุนยาวอัพเป้าหมาย179บาท
โบรกการันตีผลงาน EGCO ในอนาคตแข็งแกร่ง ตั้งแต่ปี 2559-2561 เดินหน้าลุยโครงการโรงไฟฟ้าจำนวน 5 แห่งหนุนกำลังผลิตไฟฟ้าได้สูงขึ้น 36% เป็น 5105 เมกะวัตต์ ปรับราคาเป้าหมายใหม่จาก 164 บาท เป็น 179 บาทต่อหุ้น แนะซื้อลงทุนระยะยาว

SAPPEปักธงยอดขายหมื่นล.จ่อเทกกิจการทั้งในและตปท.
SAPPE ลั่นปี 2563 ยอดขายแตะ 1 หมื่นล้านบาท หลังบุกตลาดต่างประเทศเต็มสูบพร้อมเล็งฮุบกิจการแบรนด์เครื่องดื่ม-อาหาร ขยายช่องรับทรัพย์เพิ่ม คาดชัดเจนไม่เกิน 5 ปีนับจากนี้ แถมควักงบ 450 ล้านบาท เสริมกำลังผลิตราว 30% หลังดีมานด์เครื่องดื่มทะลัก ฟากนักวิเคราะห์แนะนำ "ซื้อ" เป้าหมาย 40 บาทต่อหุ้น

'MINT'ส่องกำไรQ1นิวไฮท่องเที่ยวต่างชาติหนุนธุรกิจ
MINT แย้มผลงานไตรมาส 1/2558 สดใส รับอานิสงส์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง พร้อมตั้งเป้ารายได้ธุรกิจโรงแรมปี 2558 เติบโต 15% และคาดอัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้นเป็น 70% เล็งเปิดตัวโครงการ พูลวิลล่า มูลค่า 5 พันล้านบาท ใน จ. ภูเก็ต ภายในปีนี้ด้านโบรกส่องพื้นฐาน MINT แกร่งสุดในกลุ่ม หลังยกระดับเป็นบริษัทข้ามชาติ ชี้กำไรปีนี้โตสูง 18%

'TSF'ร่วมทุนPSTCตั้งบ.เช่าซื้อพลังงานดึงจีนสนับสนุนวงเงิน
TSF ร่วมทุน PSTC ตั้ง "บริษัทโซล่าร์ ลิสซิ่ง จำกัด" ถือหุ้นในสัดส่วน 40 ต่อ 40 แย้มสัปดาห์หน้าเตรียมเซ็นสัญญาพาร์ตเนอร์จีนที่จะถือหุ้นอีก 20% เพื่อสนับสนุนวงเงินปล่อยกู้ ระบุเป็นเจ้าแรกในธุรกิจเช่าซื้ออุปกรณ์พลังงานทดแทน

'PTT'ขายหุ้นBCPช่วงQ2โกยหมื่นล.-โบรกอัพราคา
PTT เลื่อนแผนขายหุ้น BCP ส่วนที่เหลือ 12% ออกไปเป็นไตรมาส 2/2558 เผยขายในราคาเดียวกับที่ขายหุ้นให้กับกองทุนวายุภักษ์ ด้าน "วิรัตน์ เอื้อนฤมิต" ลั่นโกยเงินขายหุ้นเข้ากระเป๋าไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท ส่วนการประชุมบอร์ดวันนี้ หั่นงบลงทุน 5 ปี (ปี 58-62) หลังราคาน้ำมันร่วงลงมาอยู่ในระดับต่ำโบรกแนะสอย PTT จ่ออัพเป้าหมายจาก 385

'SENA'ผุดโครงการหมื่นล้านกำลังซื้อฟื้น-โกยรายได้3พันล.
SENA ผุดโครงการใหม่ 11 โครงการ มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้าน "ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์" ชูกลยุทธ์รับมือกับสถานการณ์ได้ทันท่วงที พร้อมเล็งขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม "B+" เชื่อทั้งปี 2558 โกยรายได้ 3 พันล้านบาท กวาดยอดขาย 4.5 พันล้านบาท ส่วนแนวโน้มอสังหาสดใส หลังแบงก์ชาติหั่นดอกเบี้ยหนุนกำลังซื้อฟื้นคืนชีพ

EASTWตีปีกยอดขายน้ำพุ่งหนุนรายได้ปีนี้โตเข้าเป้า6%
EASTW แย้มยอดขายน้ำไตรมาส 1/2558 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3-4% หลังความต้องการใช้น้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มั่นใจรายได้รวมทั้งปีเติบโตตามเป้าที่ตั้งไว้ 5-6% พร้อมเผยมาร์จิ้นแนวโน้มสดใสคาดปรับตัวดีกว่าปีที่ผ่านมา รับอานิสงส์ค่าไฟฟ้าปรับตัวลดลง ด้านโบรกส่องเทคนิคหุ้น EASTW ยังแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบ 10.70-11.20 บาท

GBXชี้มีลุ้นราคาทองฟื้นตัวหลังเฟดคงอัตราดอกเบี้ย
บล.โกลเบล็ก มองหุ้นไทย แกว่งตัวในกรอบ 1,540-1,550 จุด นักลงทุนคลายกังวลหลังเฟดคงอัตราดอกเบี้ย 0% พร้อมแนะจับตาการทำ Window Dressing ของกองทุนสถาบันในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ ส่วนกลยุทธ์ลงทุนทองเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว รับที่ระดับ 1,165-1,160 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ตามปัจจัยบวกของเฟสคงดอกเบี้ย

'ฟอลคอน'เดินเกมรุกรายย่อยตั้งพิกัดเบี้ยรวมทะลุ1.7พันล.
“ฟอลคอนประกันภัย” วางเป้าหมายปี 2558 เร่งเครื่องรุกรายย่อย ดันเบี้ยรวมโตเพิ่ม 13% จากปีก่อน หรือเป็นเบี้ยรับรวมราว 1,761 ล้านบาท ชูกลยุทธ์ “Think Independent” เน้นสร้างความแตกต่าง พร้อมส่งผลิตภัณฑ์ประกันภัยรายย่อย “iHealth Plus” ทำตลาด ตั้งเป้า 3 ปีข้างหน้า สัดส่วนเบี้ยประกันภัยรับรวมกลุ่มธุรกิจองค์กร และลูกค้ารายย่อยจะอยู่ที่ 50:50

PPS เล็งผุดสาขา ตปท. จ่อฮุบงานพม่า 15 ล้าน
PPS สยายปีกลุยตั้งสาขาพม่า หวังรับทรัพย์งาน AEC จ้องฮุบงานออกแบบโครงสร้างพม่าอีกเพียบ คาดโกยเงินเข้ากระเป๋าจากพม่าไม่ต่ำกว่า 15 ล้านบาท ทั้งปีดันรายได้โต 10% แตะ 300 ล้านบาทส่งซิกตุนงานในมือ 337 ล้านบาทลุ้นรับงานรถไฟฟ้าสีเขียว 300 ล้านบาท คาดรู้ผลเมษายนนี้

ตลาดหุ้นนอกสร้างยิลด์เด่น บลจ.เรียงคิวอวดผลงานเข้าเป้า
ตลาดหุ้นต่างประเทศยังไปได้สวย ยิลด์เด่นเข้าตานักลงทุน บลจ.จับจังหวะทำกำไรถูกทาง หนุนผลประกอบการกองทุนเข้าเป้า เรียงคิวจ่ายผลตอบแทนสวย ล่าสุดกองทุน ONE-EURO พร้อมปิดกอง ด้วยผลตอบแทน 12.65% รับอานิสงส์ QE ยูโรโซน ด้าน KTAM คัดหุ้นเด่นตลาดนอร์ทเอเชีย หนุนกองทริกเกอร์วิ่งชนเป้าตอบแทน 5%

HYDRO กลุ่มทุนใหญ่จ่อเทก ปั้นโรงไฟฟ้าขยะ-พลิกกำไร
HYDRO โชยกลิ่นหอม บิ๊ก “พลังงานทดแทน” ที่จดทะเบียนในตลาดทำดีลเทกโอเวอร์หลัง ไล่เก็บหุ้นในกระดาน 50 ล้านหุ้น ดอกพบกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่หวังเสนอซื้อหุ้นในมือ 5-6 บาทต่อหุ้น พลิกโฉมธุรกิจ HYDRO ผุดโรงไฟฟ้าขยะ และรับโปรเจ็กต์จัดการน้ำภาครัฐ แขวนป้ายหุ้นพื้นฐานแกร่งส่วนปี 2558 พลิกกำไรโตแรง ทุ่มงบ 300 ล้านบาท รุกงานจัดการน้ำเสียพม่า

PPM เล็งฮุบธุรกิจพลังงาน ดันปั้นรายได้-ต้าน 7.20 บ.
PPM ซุ่มเงียบเล็งซื้อกิจการธุรกิจพลังงาน คาดได้ข้อสรุปเมษายนนี้หวังโกยรายได้พลังงานแตะ 300-400 ล้านบาท พร้อมจ่อขาย PP ให้นักลงทุนสถาบัน ในไตรมาส 2 นี้ การันตีงบทั้งปีกวาดได้ตามเป้า 1.5 พันล้านบาทหลังขยายฐานลูกค้าเพิ่ม โบรกมองแนวต้าน 7.20 บาท

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 40.31 จุด วิตกตะวันออกกลางตึงเครียด Source: IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ | Mar 27, 2015 06:07

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 40.31 จุด วิตกตะวันออกกลางตึงเครียด
Source: IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ | Mar 27, 2015 06:07

          สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 มี.ค. 58)--ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังจากมีรายงานว่าซาอุดิอาระเบียและชาติพันธมิตรอาหรับได้เปิดฉากโจมตีกลุ่มกบฎในเยเมน อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ปรับตัวลดลงมากกว่าคาดการณ์ 
          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,678.23 จุด ลดลง 40.31 จุด หรือ -0.23% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,863.36 จุด ลดลง 13.16 จุด หรือ -0.27% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,056.15 จุด ลดลง 4.90 จุด หรือ -0.24% 
          ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังจากมีรายงานว่าซาอุดิอาระเบียและสมาชิกกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC) ได้เปิดฉากโจมตีกองกำลังติดอาวุธฮูตี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต บาห์เรน และกาตาร์ ที่แสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจนว่าจะร่วมมือในปฏิบัติการปกป้องเยเมนจากกลุ่มกบฏฮูตี 
          ขณะที่สถานีข่าวอัล-อะราบิยาของซาอุดิอาระเบียรายงานว่า ปากีสถานและอียีปต์จะส่งเครื่องบินและเรือรบเพื่อเข้าร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ที่มีชื่อว่า "Firmness Storm" 
          สถานการณ์ตึงเครียดในเยเมนส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลที่ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเส้นทางลำเลียงน้ำมันดิบ เนื่องจากเยเมนมีชายแดนติดกับซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดในกลุ่มโอเปก 
          อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 21 มี.ค. ปรับตัวลง 9,000 ราย แตะ 282,000 ราย ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 290,000 ราย นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง 
          ด้านมาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นสำหรับภาคบริการดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 58.6 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว  จากระดับ 57.1 ในเดือนก.พ. 
          หุ้นกลุ่มเซมิคอนดัคเตอร์ร่วงลง หลังจากบริษัทแซนดิสก์ได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการ ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นแซนดิสก์ร่วงลง 18.4% 
          หุ้นกลุ่มสายการบินร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น โดยหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ส และหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ส ต่างก็ปรับตัวลงกว่า 0.9% 
          ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น โดยหุ้นแอปเปิล อิงค์ และหุ้นอินเทล คอร์ป ต่างก็ดีดตัวขึ้นกว่า 0.6% ขณะที่หุ้นไอบีเอ็ม และหุ้นไมครอน เทคโนโลยี ปรับตัวขึ้นกว่า 0.3% 
          นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงจีดีพีขั้นสุดท้ายช่วงไตรมาส 4/2557 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนมี.ค.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน 
                     

           
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

PSUM> สรุปข่าวตลาดเงิน-ตลาดทุน หนังสือพิมพ์ASTVผู้จัดการรายวัน ฉบับวันที่ 27 มี.ค. 2558

PSUM> สรุปข่าวตลาดเงิน-ตลาดทุน หนังสือพิมพ์ASTVผู้จัดการรายวัน ฉบับวันที่ 27 มี.ค. 2558

ออมสินจัดทัพองค์กรใหม่เจาะลูกค้า-แจกกระปุกทอง
ออมสินเล็งเพิ่มรายได้และกำไรผ่านลูกค้าอายุ 15-30 ปีมากขึ้น ล่าสุดปรับโครงสร้างองค์กรจัดสายงานดูแลลูกค้ารายกลุ่ม คาดออกผลิตภัณฑ์ทันสมัย 1-2 ตัวแต่ละเดือน พร้อมเพิ่มช่องทางขายใหม่ๆ พัฒนาสาขาห้างดูแลลูกค้ารายได้สูง ฉลองวันออมสินวันที่ 1 เม.ย.นี้ แจกกระปุกแพะเพิ่มทรัพย์ ลุ้นกระปุกทองคำ และมอบเงินขวัญถุงเด็กแรกเกิดและคนตั้งชื่อ "ออมสิน"

LH Bank หันรุกรีไฟแนนซ์ออกหุ้นกู้4พันล.โปะกองทุน
LH Bank หันรุกคืบรีไฟแนนซ์สินเชื่อบ้าน หลังยอดอนุมัติปล่อยกู้ใหม่ร่วงเหลือ 30-35% พร้อมเตรียมออกตราสารหนี้ด้อยสิทธิ 4 พันล้าน เสริมเงินกองทุน รองรับปล่อยได้อีก 3-4 ปี

PPSพุ่งเป้าประมูลงานภาครัฐคาดปี58รายได้เฉียด300ล้าน
บมจ.โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส คาดรายได้ปี 58 โตไม่ต่ำกว่า 10% รายได้เฉียด 300 ล้านบาท พุ่งเป้าประมูลงานภาครัฐและเอกชนต่อเนื่อง เตรียมวางแผนกลยุทธ์ใหม่เน้นงานก่อสร้างอสังหาฯ คอนโดมิเนียม-โรงแรม-ค้าปลีก เพิ่ม Backlog เข้ากระเป๋า เผย เจรจางานออกแบบใหม่อีก 2-3 ล้านบาท ชูธง Builk.com ศูนย์รวมวัสดุก่อสร้างออนไลน์ พันธมิตรเข้าร่วมกว่า 4,000 ราย

"BJC"ตั้งเป้ารายได้โต10%
บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ ตั้งเป้ารายได้ปี 2558 อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 10% เตรียมขออนุมัติผู้ถือหุ้นเข้าซื้อ METRO เดือนหน้า เผยทุ่มงบลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาทเพื่อพัฒนาบรรจุภัณฑ์

จับกระแสทอง มองโอกาสสัปดาห์หน้า
สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน ในทุกวันศุกร์เรามาจับสัญญาณราคาทองคำในสัปดาห์หน้าเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสนามลงทุนกันครับ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำฟื้นตัวได้ต่อเนื่องจากช่วงสัปดาห์ก่อนหลังการประชุม FOMC หรือคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐฯ นั่นเอง ในการประชุมดังกล่าวมีสาระสำคัญที่เป็นผลดีต่อราคาทองคำคือเรื่องความเป็นไปได้ในการพิจารณาเรื่องการขึ้นดอกเบี้ย ซึ่ง FED ลบคำว่า "อดทน" ในการขึ้นดอกเบี้ยออกไปทำให้สะท้อนท่าทีที่ผ่อนคลายมากขึ้นประกอบกับปรับมุมมองเศรษฐกิจเป็นฟื้นตัวได้ในระดับปานกลางจากที่ก่อนหน้าฟื้นตัวได้ค่อนข้างดี ราคาทองคำตอบรับในเชิงบวกเกือบจะในทันที เพราะที่ผ่านมาได้รับแรงกดดันจากความวิตกการขึ้นดอกเบี้ยมาพักใหญ่ โดยราคาฟื้นตัวจากระดับ 1,143 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ขึ้นมาใกล้ระดับ 1,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ นอกจากนี้ระหว่างสัปดาห์ยังได้รับปัจจัยหนุนจากความเสี่ยงในเยเมนหลังการรุกคืบของกลุ่มกบฏฮูธี

ทำใจเถอะ โมนิก้าและทีมงาน 2015-03-27

ทำใจเถอะ

โมนิก้าและทีมงาน
2015-03-27

*พอถึงช่วงท้ายของสัปดาห์ทีไร มักมีเสียงบ่นพึมพำจากคนรอบข้าง “โมนิก้า” ดังระงมไปทั่วนาตาปี และเรื่องที่พูดส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้น “ดัชนีหลุดแนวรับ 1,500 จุด..แล้วอย่างไรต่อ??” ผนวกกับข้อมูลสำคัญทางการเงินส่งสัญญาณว่า ปัจจัยพื้นฐานกับราคาหุ้น เริ่มอยู่ในระดับที่ไม่เหมาะสมแบบนี้..โอกาสที่หุ้นจะขึ้นแรง คงมีความเป็นไปน้อยมาก จึงอย่าตั้งความหวังที่ไกลเกินตัวนะคะ

*เนื่องจากผลการดำเนินงานของ บลจ. แต่ละกองทุนที่แสดงตัวเลขแจ่มๆ เด็ดๆ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นก่อนดัชนีร่วงลงจากระดับ 1,600 จุด แถมตัวเลขกองทุนหุ้นที่ฮิตติดจอส่วนใหญ่ยังกระจุกตัวอยู่ในกองทุนที่ให้รีเทิร์น 5-7% เป็นหลัก “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักลงทุนเบนเข็มไปการลงทุนไปยังการเล่นสั้นๆ เพราะเหมือนเป็นการแก้เกมการลงทุนไปในตัว จึงขอนำเสนอเรื่องดังกล่าวให้รับทราบกันโดยทั่วไปเจ้าค่ะ

*ฉะนั้นอย่าได้กังวลใจที่วานนี้ดัชนีลงมายืนที่ 1,496.41 จุด ลบไป 16.39 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขาย 3.51 หมื่นล้านบาท เพราะมันเป็นผลพวงมาจากข่าวสารทางเศรษฐกิจยังไม่มีความชัดเจนอีกทั้งใกล้ถึงช่วงวันหยุดยาว ผนวกกับนักลงทุนแต่ละกลุ่มกำลังอยู่ในช่วงปรับโพซิชั่นในการลงทุน การเคลื่อนไหวของหุ้นถึงไปคนละทิศคนละทาง หุ้นใหญ่บางตัวขึ้นได้ หุ้นใหญ่บางตัวขึ้นไม่ได้ และกลุ่มหุ้นที่อยู่ในความสนใจของ “โมนิก้า” คงหนีไม่พ้นหุ้นที่ตกเป็นขี้ปากชาวบ้านไงหละคะ

*ส่วนดาวเด่นที่เจิดจรัสในช่วงนี้ ก็เป็นหุ้นตัวเดิมๆ ที่เคยแนะนำไปก่อนหน้านี้ “โมนิก้า” ไม่อยากพูดถึงให้เปลื้องพื้นที่ข่าวเม้าท์ เพราะวันนี้จะพูดถึงหุ้นเล็กรสดีแบบฉบับพี่ลุยน้องตามอย่าง HYDRO ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.14 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 4.67% อย่าถามหาเหตุผลให้เปลื้องสมอง เพราะทุกครั้งที่หุ้นวิ่งขึ้นแรง มักมีข่าวควบรวมออกมาเป็นประจำพะยะค่ะ

*ส่วนที่เล่นไม่เลิก เต้ากันไม่เบื่อ ก็ต้องยกให้ CHUO เรื่องนี้ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไป และไม่มีใครให้คำตอบได้ชัดเจน แต่ที่เป็นปริศนาคาใจ “โมนิก้า” มากที่สุดในช่วงหลังๆ ก็คือ เคยดันราคาหุ้นจนขึ้นไปยืนแถว 19.70 บาทมาแล้ว ล่าสุดค่า P/E ปาเข้าไป 25 เท่าเอง เดี๊ยนก็เลยสงสัยว่า พระเดชพระคุณทั้งหลายจะดันกันต่อจริงๆ เหรอ?? เพราะราคาล่าสุดที่ระดับ 15.20 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไปอีก 7.04% ก็เหลือรับประทานแล้วนะคะ

*เมื่อสถานการณ์โดยรวมยังก้ำกึ่ง “โมนิก้า” จึงขอนำเสนอหุ้นที่ทนทานทุกสภาพอากาศ และในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับตัวลงมากเกินไป แถมรอบนี้เป็นการทำในลักษณะ double low ที่บริเวณ 9 บาท จึงเป็นจังหวะการการทยอยซื้อสะสมของคนที่มีสายป่านยาว ว่ากันว่า ราคาเป้าหมายไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะการเล่นเที่ยวนี้วัดกันที่ความอึดนะจะบอกให้

*เช่นเดียวกับในราย LOXLEY หุ้นสุดเลิฟของ “โมนิก้า” ตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นใหม่ๆ และตอนนี้ก็ยังเป็นหุ้นสุดเลิฟเหมือนเดิมทุกประการ โดยเหตุผลที่ทำให้เดี๊ยนเกิดอาการฟินสุดๆ ล้วนมาจากแสงสว่างปลายอุโมงค์เรื่องหวยออนไลน์ ทุกย่างก้าวที่ “บิ๊กตู่” ประกาศเดินหน้า ย่อมทำให้หุ้นตัวนี้ขยับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ บวกกับหุ้นอ่อนตัวลงมายืนอยู่ที่ 4.14 บาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยืนอยู่ที่ 5 บาท ไม่ซื้อจังหวะนี้ แล้วจะซื้อจังหวะไหนหละคะ

*ในรายที่ทำท่าจะมาดีอย่าง ML นั้น..”โมนิก้า” บอกได้เลยว่า ล่มปากอ่าวเป็นประจำ?? แถมข้อมูลในอดีตฟ้องว่า หุ้นวิ่งขึ้นมายืนสูงกว่าบุ๊ค 1.52 บาท ก็หืดขึ้นคอจะแย่อยู่แล้ว โอกาสที่หุ้นจะวิ่งขึ้นไปถึงระดับ 4 บาทถึงริบรี่เหลือเกิน และรอบนี้ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 2.42 บาท บวกไป 0.08 บาท ก็ดีถมเถแล้ว แถมทิศทางการเคลื่อนตัวของหุ้นเป็นลักษณะฟันปลา เข้าช้า ออกช้า รับรองได้เที่ยวดอยหน้าร้อนสมใจอยากแน่ๆ เจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ ABC ACD ก่อนหน้านี้ “โมนิก้า” ยกให้เป็นสุดยอดหุ้นเทิร์นอะราวด์ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เช่นนั้นอีกแล้ว เพราะราคาหุ้นรูดลงอย่างต่อเนื่องราวกับกำลังจะเจ๊ง? และช่วงหลังๆ ก็มีข่าวให้พวกปากบอนได้นินทากันตลอดเวลา เดี๊ยนถึงไม่ต้องการให้นักลงทุนเอาตัวเข้าไปเสี่ยงในหุ้นที่รู้ทั้งรู้ว่า “ขึ้นไม่ไหว” ...งานนี้จริงเท็จประการใด เดี๋ยวประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 ก็รู้เองแหละ

*ส่วนที่รูดม่านปิดฉากเป็นการชั่วคราวก็คือ FANCY หลังจากแสดงอภินิหารแบบไร้สาระ ผสมสานกับข่าวลือที่ออกมา ก็ไร้ความน่าเชื่อถือ ทำให้ราคาหุ้นร่วงพล่อยไม่เป็นท่า และมีแนวโน้มจะอ่อนตัวลงไปอีกเรื่อยๆ “โมนิก้า” ถือเป็นกรณีศึกษาที่พลพรรคแมงเม่าต้องจดจำให้ดีๆ เพราะกลุ่มก๊วนที่เข้ามาช่วยกันดันราคาหุ้น ก็เป็นกลุ่มเดิมๆ ที่ใช้ลูกเล่นเดิมๆ มาตบตา แต่ดันถูกจับได้เสียก่อน จึงเทขายหุ้นออกมาเรื่อยๆ จนสุดท้ายลงมาปิดที่ 3.44 บาท ลบไป 0.46 บาท ..ทราบแล้วเปลี่ยน

*ข้อมูลนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของ “โมนิก้า” ควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนนะคะ

โอกาสในวิกฤต พลวัต2015 2015-03-27

โอกาสในวิกฤต

พลวัต2015
2015-03-27

ไม่ใช่เรื่องประหลาดที่สัญญาณทางเทคนิคในยามตลาดถูกแรงกดดันจากภายนอก เกิดใช้การไม่ได้ เพราะแรงเทขายของต่างชาติที่ออกมาต่อเนื่อง ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยหลุด 1,500 จุดไปได้อย่างง่ายดาย แนวรับกระจุยกระจายเมื่อวานนี้ หากไม่มีสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ตะวันออกกลาง จากกรณีสงครามกลางเมืองในเยเมน ที่ดันราคาน้ำมันดิบทั่วโลกวิ่งขึ้นแรง ดัชนีตลาดหุ้นไทยน่าจะลบแรงมากกว่านี้อีกหลายเท่า

ไม่ต้องพูดถึงนักลงทุน ที่เจ็บตัวกันระนาว ไม่มากก็น้อย ยกเว้นพวกถือคติว่า เงินไปเที่ยว เดี๋ยวเดียวก็กลับมา

แล้วก็คงไม่ต้องพูดถึงนักวิเคราะห์ที่วิเคราะห์ผิดเสมอในยามสถานการณ์พลิกผัน ตั้งตัวไม่ติดเช่นนี้

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ แม้ดัชนีวานนี้จะถล่มหนักไป 16 จุดเศษ แต่มูลค่าการซื้อขายกลับเบาบางอย่างมาก แสดงว่า แรงรับหุ้นต่ำ แรงขายจึงเทกระหน่ำง่าย เพราะคนที่คิดจะรับไม่มั่นใจว่า หุ้นจะต่ำลงไปกว่านี้อีกหรือไม่

ช่วงนี้ต่างชาติเทขายหุ้นไทยต่อเนื่อง คล้ายกับเมื่อ 2 ปีก่อน ตอนที่ต่างชาติขายหุ้นในเอเชียทิ้งเพราะข่าวจะยกเลิกมาตรการ QE ในสหรัฐ โดยเฉพาะตลาดTIPs (ไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์) ทำให้ดูยากว่า ต่างชาติจะกลับมาเร็วแค่ไหน

สถานการณ์นับจากนี้ไป ตลาดหุ้นไทยจะตกอยู่ในสภาพรับค่อนข้างสาหัสตามลำพัง เหตุผลก็เพราะตลาดหุ้นไทยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต่างออกไปจากเดิม และเอื้อต่อการถดถอยของดัชนีอย่างมาก นับแต่

- ค่าพี/อีของตลาดหุ้นไทยยังสูงมากที่ระดับเหนือกว่า 18 เท่า เปิดช่องกับการไหลลงต่อไป เพื่อไปหาราคาหุ้นที่ต่ำลงจนราคาสมเหตุผล

- เศรษฐกิจไทยไม่ดีเอาเสียเลย แม้รัฐบาลจะป่าวประกาศดีแค่ไหนก็หาคนเชื่อยาก เพราะล่าสุดถูกต่างชาติปรับธนลดเป้าการเติบโตปีนี้ลง ตัวอย่างงานมอเตอร์โชว์ที่เคยคึกคักช่วงนี้ มีคนชมน้อยลง เพราะมีรถโชว์ต่ำกว่าปกติ เนื่องจากติดปัญหากฎอัยการศึก

- การเมืองของไทยยังไม่นิ่ง เพราะรัฐบาลซึ่งมาจากการรัฐประหาร อยู่ในสภาพ ”ยึดอำนาจได้ แต่ปกครองไม่ได้ดี” ทำงานไม่เป็นโล้เป็นพายในการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน ปล่อยให้ความเชื่อมั่นเหือดหายลงรวดเร็ว

- ผลประกอบการของหุ้นหลักไม่สดใส โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคารและพลังงาน ทำให้นักลงทุนต้องเลือกเอาการขายตัดขาดทุน หรือติดหุ้นต่อไปยาวนาน

ภาวะที่ตลาดหุ้นมีมูลค่าซื้อขายต่ำลงอย่างรุนแรง จากระดับ 5 หมื่นล้านบาทช่วง 2 เดือนแรก เหลือเพียง 3.5 หมื่นล้านบาทในหลายวันมานี้ เป็นอาการที่น่าเป็นห่วง มากกว่าการที่ต่างชาติขายออกหลายเท่า เพราะมูลค่าที่หายไป พร้อมกับดัชนีถดถอยลง เป็นอาการที่เรียกว่า “ตลาดวาย” (endemic market) ชัดเจน

ภาวะตลาดวาย เป็นภาวะที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งเพราะหุ้นบลูชิพจะมีคนซื้อขายต่ำ เนื่องจากประการแรกสุด บริษัทที่จะระดมทุนจากการขายหุ้นในตลาดแรก (ไอพีโอ) จะสูญเสียโอกาสในการขยายธุรกิจหรือแก้ปัญหาทางการเงินไปมหาศาล ทำให้ตลาดขาดสินค้าใหม่เจ้ามาสร้างความกระปรี้กระเปร่าให้โดยปริยาย ทำให้ธุรกิจหลักทรัพย์ที่มีกำไรไม่ค่อยสวยโดยธรรมชาติในยามปกติอยู่แล้ว ยิ่งจะย่ำแย่หนักขึ้นไปอีก

ประการที่สอง ราคาหุ้นที่ซื้อขายในตลาดขยับยาก โดยเฉพาะหุ้นบลูชิพที่มีขนาดใหญ่และหนัก ย่อมมีโอกาสที่จะลงง่าย ขึ้นยาก หมดเสน่ห์จากนักลงทุน เปิดช่องให้นักลงทุนรายย่อยหันไปเล่นหุ้นราคาต่ำที่มีสภาพคล่องสูง ซึ่งจะไปเข้าข่ายการซื้อขายหุ้นร้อนที่ตลาดต้องการควบคุมตามมาตรการ 3 ระดับ ทำให้ราคาหุ้นผันผวนไม่สมเหตุผล

คงจะนึกภาพออกยากว่า ในสภาพที่ตลาดกำลังวาย แต่มาตรการควบคุมหุ้นร้อนจะออกมาบังคับใช้อย่างไร โดยที่ไม่ทำให้มี ซึ่งผลเสียกระทั่งตลาดมีมูลค่าซื้อขายหดหายไป

ในช่วงหลังวิกฤตต้มยำกุ้ง เมื่อกว่า 10 ปีก่อน ตลาดหุ้นขณะนั้นเคยผ่อนปรนเพื่อให้สภาพตลาดที่วายอย่างรุนแรง สามารถดำเนินต่อไปได้ โดยอนุญาตให้มีการเล่นหุ้นหักกลบวันเดียวได้ หรือ เน็ตเซ็ทเทิลเม้นท์ เป็นที่มาของพฤติกรรมที่เรียกกันว่าคุณเน็ต ที่คุ้นเคยกันมาถึงทุกวันนี้ ถือเป็นการหลิ่วตาข้างหนึ่ง

คำอธิบายที่สวยหรูของผู้บริหารตลาดหุ้นที่เคยใช้กันพร่ำเพรื่อว่า ตลาดที่ซบเซาเป็นผลพวงจากสภาพทั่วไปของตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากเศรษฐกิจโลกไม่ดี อาจจะฟังขึ้น แต่จะบอกว่าปัจจัยพื้นฐานทางการเงินของบริษัทจดทะเบียน (ภายในประเทศยังอยู่ในทิศทางที่ดี) โดยที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนที่ดี นักลงทุนไม่ควรตื่นตระหนก ก็คงจะใช้การไม่ได้อีกแล้วในปีนี้

ที่สำคัญ เม็ดเงินเก็งกำไรต่างชาติที่ถอยไปจากเมืองไทย อาจจะใช้เวลานานกว่าปกติในการหวนกลับเข้ามาในประเทศอีกครั้ง

สำหรับนักลงทุนจำนวนไม่น้อย ที่เคยมีประสบการณ์ พวกเขาอาจจะเรียนรู้ได้ว่า การเจ็บตัวจากวันที่หุ้นตกแรงนั้น ไม่ได้ทำให้โลกล่มสลาย แต่คำแนะนำของบรรดานักวิเคราะห์ ที่มองเห็นว่าเป็นโอกาสซื้อมากกว่าการตื่นตระหนก เพื่อส่งสัญญาณให้ทำการสะสมหุ้นเพื่อรอวันดีดกลับครั้งใหม่ แม้จะเป็นเสมือนยาขม แต่ก็เป็นสิ่งที่พึงรับฟัง

คำถามตามมา อยู่เพียงแค่ว่าจะซื้อหุ้นตัวไหน ที่ให้ผลตอบแทนรวดเร็ว และหักกลบการขาดทุนจากช่วงเวลาที่หุ้นลงหนักได้ ซึ่งโดยทั่วไปเรียกกันง่ายๆ ว่าหุ้นหลบภัย หรือหุ้นกลับตัวเร็ว

เป็นโจทย์ที่แมงเม่าทั้งหลายต้องขบคิด หากไม่ใจฝ่อจนเลิกซื้อขายหุ้นกันไปเสียก่อน

การค้นหาโอกาสในวิกฤต เป็นหน้าที่ของนักลงทุนรายย่อย ซึ่งแม้จะมีความเสี่ยง แต่ก็ยังดีกว่าฝากเงินไว้กันธนาคาร หรือซื้อกองทุน ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินเฟ้อเพียงเล็กน้อย

สังคมข่าวหุ้น คาเฟอีน 2015-03-27

สังคมข่าวหุ้น
คาเฟอีน
2015-03-27

หนังสือพิมพ์รายวัน “ข่าวหุ้นธุรกิจ” กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของประเทศ ฉบับประจำวันศุกร์ที่ 27-อาทิตย์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2558

*****ดัชนีหุ้นไทยหลุดแนวรับที่ 1,500 จุดแล้ว ส่วนบรรดาหุ้นบลูชิพ ก็ปรับลงเช่นกัน ทำให้ “บลจ.” หลายแห่ง ต่างสบช่องด้วยการออกทริกเกอร์ฟันด์มารองรับตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงปลายสัปดาห์หน้า มูลค่ารวมกันกว่า 5-6 พันล้านบาท เป้าหมายผลตอบแทนต่างกันไป แต่โดยเฉลี่ยก็ราวๆ 5%

********แม้เศรษฐกิจไทยจะถูกหลายหน่วยงานปรับลดจีดีพี แต่ก็ยังมีหุ้นหลายตัวที่มีโอกาสเติบโตสวนกับเศรษฐกิจได้ เช่น กลุ่มไฟแนนซ์ พวกหุ้น SAWAD, TK, GL รวมถึง MTLS เพราะต่างได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยขาลง ซึ่งน่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนในช่วงไตรมาส 2 นี้เป็นต้นไป หลังแบงก์พาณิชย์ต่างๆ เริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครบเกือบทุกแห่งแล้ว

*******หุ้น PLAT ยังคงถูกพูดถึง หลังเป็นตัวแรกของปีนี้ที่หลุดราคาไอพีโอ แต่หากดูจากผลระกอบการและพื้นฐาน รวมถึงโอกาสการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต ก็จัดเป็นหุ้นพื้นฐานดี ส่วนราคาหุ้นไอพีโอ 7.40 บาท ถูกมองว่าแพงเกินไป รวมถึง พี/อีระดับ 47 เท่า ก็สูงเกินไป ส่วนตอนนี้ พี/อีลงมาเหลือ 38-39 เท่าแล้ว หลังวานนี้ราคาหลุด 6 บาทมาปิดตลาดที่ 5.90 บาท

******แบงก์กรุงเทพ หรือ BBL ราคาหุ้นลงมาต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี ด้านโบรกฯ มองว่า BBL มีผลกระทบทางด้านส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย หรือ NIM ที่แคบลง ส่วนราคาหุ้นนั้นมาอยู่แถวๆ 179 บาท หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น มีโอกาสที่ราคาหุ้นของไทยพาณิชย์ หรือ SCB จะขยับขึ้นมาแซงได้ เพราะตอนนี้ห่างกันไม่ถึง 5 บาท

*******JAS วันก่อนหน้ามีการประชุมนักวิเคราะห์ และแม้จะมีบทวิเคราะห์ออกมาแนะนำซื้อ เพราะมองโอกาสทางธุรกิจต่างๆ ยังเติบโตได้ดี แต่ราคาก็รูดแบบฉุดไม่อยู่ เพราะนอกจากจะหวั่นเรื่องเจ้าของขายหุ้นออกมาแล้ว เรื่องการลงทุนในธุรกิจ 4G ก็จะต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก และใช้เวลาคืนทุนหลายปี

******บล.เคจีไอ แนะนำซื้อหุ้น PLANB ราคาเป้าหมาย 5.1 บาท มีอัพไซด์เยอะ หลังมองว่ากำปีนี้อาจเติบโตเท่าตัว จากแนวโน้มสื่อโฆษณานอกบ้านยังมีเทรนด์เติบโตสูง มีสื่อรูปแบบใหม่ในปีนี้ เช่น การโฆษณาผ่านอินเทอร์เน็ตฟรีบนรถเมล์ และการโฆษณาผ่านตู้เติมเงินมือถือ ส่วนสัญญาณทางเทคนิคก็ดี

*******หวยออนไลน์ ต้องลุ้นกันในขั้นตอนของ สนช.ว่าจะผ่านกฎหมายออกมาหรือไม่ และเมื่อไหร่ แต่ผู้บริหารของล็อกซ์เล่ย์ และสำนักงานสลากฯ จับเข่าคุยกันไปแล้ว และพร้อมที่จะดำเนินการทันทีหากกฎหมายผ่าน รวมถึงการถอนฟ้องต่อสำนักงานสลากฯด้วย ส่วนกลุ่มการเคลื่อนไหวต่างๆ ที่ต่อต้านหวยออนไลน์อาจไม่ค่อยน่าห่วง แต่ที่น่าห่วงกว่าคือ ตัวของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หากยืนยันว่าเดินหน้า ก็ต้องเดินหน้าต่อไปแบบไม่หวั่นไหว

*****มีความคืบหน้าการขายหุ้นของ PTT ในบางจากปิโตรเลียม หรือ BCP ในส่วนที่เหลือ 12% หลังจากส่วนแรกขายให้กับกองทุนวายุภักษ์ไปแล้ว โดยล็อตหลังนั้น ราคาขายจะเท่ากับส่วนแรก และผู้บริหารของปตท. คาดว่าจะได้เงินจากการขายหุ้นรวมทั้งหมดกว่า 1 หมื่นล้านบาท ส่วนแผนลงทุน 5 ปี (2558-2562) ได้มีการปรับลดงบลงทุนลงเหลือกว่า 2.9 แสนล้านบาท จากเดิมตั้งไว้ 3.27 แสนล้านบาท ********

บาดตาเซียน 27-03-2015 ...<technical analysis>

บาดตาเซียน 27-03-2015 ...<technical analysis>

SGP - ดูหุ้นที่ถือยาว (2)

ที่มาที่ไป… ยังคงอยู่ในมุมมองเดิม เรื่องการคัดหุ้นที่จะถือกันแบบ Long Term หรือ ถืออย่างน้อยๆ ก็ 9-12 เดือน หรือ ถ้าจะว่าไป ส่วนต่างของกำไร หวังเกิน 50% ซึ่งถ้าได้เห็นแบบนั้นกันจริงๆ ใครจะขายทำกำไรก็ไม่ว่ากัน… แต่ที่เหนือเมฆกล่าวในวันวานว่า หุ้นแบบนี้ มองการขึ้นไปได้ระดับ 100% หรือจะมากกว่านั้น ก็ยังได้ ซึ่งก็แน่นอน ย่อมจะเจอคำถามสวนกลับมาแน่ว่า เอาอะไรมาคิด หรือวิเคราะห์ อันนี้ก็ต้องบอกว่า เอ่ยกันมาบ่อยแล้ว ซึ่งมุมมองในการวิเคราะห์หรือเลือกหุ้นนั้น มีหลากหลาย แต่ว่าเราจะต้องมีหลักการในการเลือกของตัวเองไว้ด้วย รู้ตัวเองว่าเป็นนักลงทุนแบบไหนด้วย… หากยังเป็นนักเก็งกำไร แล้วจะมาถือหุ้นยาวๆ บางครั้งอาจจะอึดอัดได้ หรือ ถ้าเป็นนักลงทุนตัวจริง แต่ดันจะไปเล่นเก็งกำไรสั้นๆ หัวใจก็อาจจะวายได้… แล้วหุ้นบางตัว ที่ผลการดำเนินงานขาดทุน หรือยังไม่ดี จนราคาลงมาต่ำๆ แล้ว ก็ลองมองในมุมกลับให้แง่บวกกับเขาดูบ้าง แต่ก็ต้องเป็นหุ้นที่สามารถมองได้นะครับ หุ้นบางตัว ต่อให้จะมองดี หรือเข้าข้างอนาคตเขาแบบไหนอย่างไร ก็เรียกว่ามืดหรือยังไม่เห็นแสงสว่าง เราก็ไม่ควรเลือกหุ้นแบบนั้น… แล้ว SGP ที่เข้ามาอยู่ในบาดตาเซียนวันนี้นั้น ไม่น่าจะต้องบอกว่า จะต้องมองยังไง แม้ว่าปีที่แล้ว ผลการดำเนินงานของบริษัทจะขาดทุน แต่ราคาก็ลงมาต่ำมากๆ จนรับรู้ปัจจัยดังกล่าวไปแล้วกระมัง… แบบนี้ หากมีอะไรในทางที่ดีต่อบริษัท ไม่ว่าจะ 1-2 ปีข้างหน้า เชื่อเลยว่า ราคาอาจจะวิ่งขึ้นแรง จนไล่ตามกันไม่ทัน

ดูตามเกม… ระยะนี้ ไม่มีการเล่นอะไรแบบแปลกๆ ให้เห็น ให้สงสัย ก็เลยต้องว่ากันตามสัญญาณทางเทคนิคไปก่อน แล้วก็อย่างว่า ถ้าผิด หรืออ่านพลาด ยังไงเสีย เราก็มีจุด Stop Loss อยู่แล้ว

แนวรับ : … 11.7-11.5 ยังน่าสนใจ ไม่ต่ำกว่า 10.8 ลงมา ก็ยังอุ่นใจ
เป้าหมาย : … ถ้าเห็นยืน 13.0 ได้เมื่อไร ระยะ 9-12 เดือน ลุ้น 20-21

ความเห็นเซียน………………………. โดย เหนือเมฆ

กราฟ SGP… ซึ่งวันนี้ เอามุมมอง ที่ให้เห็นแนวโน้มชัดเจนกว่าหุ้นในวันวานบ้าง เรียกว่า ดูพฤตกรรมของรอบขึ้นลงกันหน่อย โดยเรายังใช้เรื่องของ MA เป็นตัวอ่านแนวโน้ม ซึ่งจะเห็นว่า ราคาระดับนี้ ก็ยังอยู่ในช่วงต้นๆ ของแนวโน้มที่คาดว่า กำลังจะขึ้น แล้วเวลาถึงรอบขึ้น ในอดีตเคยขึ้นอย่างไร อนาคต ก็เป็นไปได้เช่นกันที่จะขึ้นแบบนั้น (ประวัติศาสตร์มักเกิดซ้ำ ตามกฎทางเทคนิค)… ตัว SGP หากพลิกลงมาต่ำกว่า 10.8 ก่อน ก็อาจจะขอดูก่อน หรือ ขายออกไป แล้วนั่งดูใหม่ (หรือรอตัวใหม่)

วันพุธที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2558

หุ้นเทคนิคเด่น - บล.ไอร่า 2015-03-26 09:05:00

หุ้นเทคนิคเด่น - บล.ไอร่า
2015-03-26 09:05:00


STEC

ซื้อเล่น Rebound รอบใหญ่

แนวรับ แนวต้าน

20.50 22.00

20.30 22.80

ตัดขาดทุน ---- บาท

Reversal Pattern + Oversold

เมื่อวานระดับราคาได้มีสัญญาณ Bullish Engulfing ซึ่งเป็น Reversal Pattern และที่สำคัญเกิดขึ้นที่ในภาวะ Oversold อย่างมีนัยสำคัญสูงมากทาให้คาดว่ากาลังจะเข้าสู่การมี Technical Rebound อย่างจริงจัง

 

IRPC

ระยะกลางทยอยซื้อสะสม ระยะสั้นๆซื้อรอขายทีละ Step

แนวรับ แนวต้าน

4.12 4.26

4.10 4.44

ตัดขาดทุน ---- บาท

ทยอยขึ้นทดสอบแนวต้าน

ระดับราคาได้มีสัญญาณซื้อระยะสั้นๆทาให้มีแนวโน้ม Positive มากโดยจะมีแนวต้านแรกที่บริเวณ 4.26 บาทที่หาก Break ได้จะมีแนวต้านเป้าหมายถัดไปที่ 4.58 บาทเป็นอย่างน้อย

 

IVL

สั้นๆรอ Follow Buy เหนือ 27.00 บาท

แนวรับ แนวต้าน

26.00 27.00

25.00 29.00

ตัดขาดทุน 24.00 บาท

27.00 บาทเป็นแนวต้านสำคัญ

แนวโน้มในระยะสั้นๆได้มีทิศทาง Positive อย่างมากและพร้อมจะทดสอบแนวต้านที่ 27.00 บาทที่พร้อมจะ Break ขึ้นไปเป็นสัญญาณซื้อและจะมีแนวต้านเป้าหมายถัดไปที่บริเวณ 30.00 บาท

 

KTB

ทยอยซื้อสะสมและสั้นๆรอ Follow Buy เหนือ 23.20 บาท

แนวรับ แนวต้าน

22.90 23.40

22.80 23.70

ตัดขาดทุน 22.50 บาท

23.20 บาท Break ได้เป็นสัญญาณซื้อสั้นฯ

แนวโน้มในระยะสั้นๆมีทิศทาง Positive โดยจะมีแนวต้านที่ 23.20 บาทที่หาก Break ได้จะเป็นสัญญาณซื้อระยะสั้นๆและจะมีแนวต้านเป้าหมายระยะสั้นๆที่ 23.70 บาท

สังคมข่าวหุ้น เล็กเซียวหงส์

สังคมข่าวหุ้น
เล็กเซียวหงส์

หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจรายวัน กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของประเทศ ฉบับประจำวันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาด1,512.80 จุดติดลบ 1.65 จุด มูลค่าซื้อขาย32,704 ล้านบาท จับตาดูว่าแนวรับ 1,500 จุด จะรักษาไว้ได้นานแค่ไหน..!?

****หุ้นPLAT กลายเป็นที่ “ระบายอารมณ์” กันไป หลังพลาดท่าราคาหลุดจองตั้งแต่วันแรก จึงตามมาด้วยข่าวลือทั้ง “ผู้ถือหุ้นใหญ่ขายบ้าง-เอาเงินไปใช้หนี้บ้าง” ผู้บริหารต้องออกมาประกาศชัดว่า “ผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่มีใครขายและ PLAT ไม่มีหนี้ที่ต้องใช้อยู่แล้ว” แต่..ประเด็นที่ต้องขบคิดคือการ “ตั้งราคาไอพีโอ” ระดับ P/E สูงกว่า 30 เท่า ว่ากันว่าสูงไปนิดหนึ่ง..ทำให้มีส่วนต่างกำไรจูงใจน้อยเกินไป ที่สำคัญกว่านั้น...ต้องไปเช็กนิดหนึ่งว่าวันแรกลูกค้าจาก “โบรกฯรีดอันเดอร์ไรต์” ขายทิ้งหรือไม่ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดกับหุ้น PLAT ครั้งนี้ เสมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหุ้น GLOBAL เมื่อ 19 ส.ค. 52 ครั้งนี้โบรกเกอร์รีดอันเดอร์ไรต์รายเดียวกันเลย

****หุ้นJAS เป็นจังหวะทยอยเก็บได้แล้ว หลังราคาหลุด 6 บาท งานนี้ “แพนิกเกินเหตุ” หรือไม่กรณีขายหุ้นที่ซื้อคืน..ที่ผ่านมาก็ชัดเจนว่า JAS ใช้วิธีลดทุน ด้วยการตัดหุ้นที่ซื้อคืนทิ้ง..และครั้งนี้ก็ใช้วิธีเดียวกัน...แต่ที่ต้องแจ้งว่าขายก็เพราะเกณฑ์ตลท.ต้องแจงแบบนั้น....ส่วนเรื่องประมูล 4G ที่หลายโบรกเกอร์ดูแคลนว่า “จะสู้ 3 เจ้าเดิมไหวหรือ..!?” แต่เมื่อดูถ้อยแถลงจากผู้บริหาร JAS ล่าสุด..ก็น่าจะเปลี่ยนแปลงแนวคิดได้ไม่น้อยทีเดียว

****หุ้น SAMTEL ข่าวดีล่าสุดคว้างานโครงการ APPS จาก AOT ด้วยสัญญา 5 ปี เรียกว่าสร้างมูลค่าเพิ่มให้ SAMTEL อีกไม่น้อยทีเดียว แน่นอนว่า SAMART บริษัทแม่ขานรับประโยชน์ทางอ้อมไปโดยปริยาย เรียกว่า “เล่นได้ทั้งแม่และลูก” เลยทีเดียว

****หุ้น BBL ราคาร่วงหนักกว่าเพื่อนหลังถูกมองว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้  ทำให้มีความเสี่ยงที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ลดลงอย่างมากและความต้องการสินเชื่อต่ำลง เรียกว่าไม่มีอะไรดีเลยว่างั้นเหอะราคาหุ้นเลยตอบสนองอย่างสาสมจริงๆ****ส่วนหุ้นKTB น่าจะได้รับประโยชน์รัฐบาลมีแผนกู้เงิน 57,000 ล้านบาท แน่นอนว่าKTB จะเป็นแกนนำในการปล่อยกู้ครั้งนี้...ว่ากันว่า KTB จะแบ่งเค้กก้อนนี้ไม่ต่ำกว่า 15,000-20,000 ล้านบาท...แหม๊..แค่เท่านี้ก็พุงกางแล้วละครับ เป็น “แมวอ้วน” ไปได้อีกนาน*

โบรกฯ มองหาก JAS ทำ Mobile Broadband 4G ได้ตามแผน จะดันรายได้โต 100% คงเป้าหมายพื้นฐาน 8.40 บ.

 โบรกฯ มองหาก JAS ทำ Mobile Broadband 4G ได้ตามแผน จะดันรายได้โต 100% คงเป้าหมายพื้นฐาน 8.40 บ. 

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -25 มี.ค. 58 16:00 น.
  บล.ทรีนีตี้ ออกบทวิเคราะห์ระบุว่า จากการเข้าร่วมประชุมนักวิเคราะห์ของ JAS ในวันนี้ ผู้บริการชี้แจ้งเกี่ยวกับประเด็นดังต่อไปนี้
  1 ) การที่จะนำหุ้นซื้อคืนกลับมาขายในตลาดนั้น เป็นกฏระเบียบในการที่จะต้องประกาศช่วงเวลาที่บริษัทจะทำการขายหุ้นซื้อคืนในตลาด ซึ่งถ้าในช่วงดังกล่าวบริษัทไม่สามารถจำหน่ายหุ้นซื้อคืนในตลาดได้ก็จะต้องทำการลดทุนในส่วนหุ้นซื้อคืนที่บริษัทซื้อมา 
  2) การออก JAS- W3 นั้น บริษัทมีความตั้งใจที่จะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนดังกล่าวไปใช้ประมูลคลื่นความถี่ 4G ที่จะเกิดขึ้น ทั้งนี้บริษัทได้มีการพูดคุยกับ Partner 3 ราย โดยจะคัดเลือกเหลือเพียง 1 รายที่จะเข้ามาทำธุรกิจ Mobile Operator โดยบริษัทจะใช้จุดแข็งในการให้ Speed และ Data กับผู้ใช้งานเหนือคู่แข่ง และตั้ง Position คือ Mobile Broadband 4G เพื่อให้สอดคล้องกับธุรกิจ Fixed Broadband ที่มีอยู่โดยลักษณะของโครงสร้างในการลงทุน 4G เป็นดังนี้
  ในส่วนของเงินการลงทุน 4G นั้นบริษัทประเมินไว้ 25,000-30,000 ล้านบาทซึ่งเป็นค่า License และ CAPEX ไม่รวมเสาโทรคมนาคม ในส่วนของเสานั้นบริษัทจะใช้ลักษณะของการเช่าจาก Infrastructure ซึ่งในกรณีที่ไม่สามารถเช่าได้นั้น บริษัทจะลงทุนและขายต่อให้กับ JASIF และทำสัญญาเช่าแทน เป้าหมายลูกค้านั้นอยู่ที่ 1-2 ล้านเลขหมายหรือ 2% ของ Market share ในปัจจุบัน (AIS 44 ล้านเลขหมาย, DTAC 28 ล้านเลขหมายและ TRUE 24 ล้านเลขหมาย) 
  เรามองว่าธุรกิจ Mobile Operator ในปัจจุบันมีการแข่งขันค่อนข้างสูงและตลาดเองเริ่มมีการเติบโตที่ช้าลงเนื่องจาก Penetration สูงกว่า 150% แต่ด้วย Target 1-2 ล้านเลขหมายที่บริษัทตั้งไว้ก็มีความเป็นไปได้ โดยอาจจะใช้ฐานลูกค้าเดิมของ 3BB ที่มีเกือบ 1.8 ล้านรายในขณะนี้ ซึ่งถ้าบริษัทสามารถทำสำเร็จได้ตามที่ตั้งไว้ฐานรายได้ของบริษัทจะเติบโตได้ 100% แต่อย่างไรก็ดีต้องรอดูว่าจำนวน License 4G ที่จะออกมานั้นมีจำนวนเท่าไร และราคาในการประมูล รวมไปถึงการเช่าโครงข่ายโทรคมนาคมจาก Infra Sharing ที่จะเกิดขึ้นมีความชัดเจนเพียงไร ในส่วนของธุรกิจ Fixed Broadband นั้นยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดย คาดว่า Net Add ใน ไตรมาสแรกจะสูงถึง 80,000 ราย มาอยู่ที่ 1.75 ล้านราย และสิ้นปีตั้งเป้าไว้ที่ 2 ล้านราย (+20%) เรายังมองธุรกิจ Broadband Internet ยังคงเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง 
  ทั้งนี้ยังคงเป้าหมายพื้นฐาน Fully Diluted ที่ 8.40 บาท (ก่อน Diluted 10.60 บาท) แต่ช่วงสั้นอาจจะได้รับผลจากความไม่ชัดเจนในการลงทุน 4G การแข่งขันในตลาด Mobile ที่ค่อนข้างสูง Wait and See
  ล่าสุดเวลาประมาณ 15.58 น. ราคาหุ้น JAS อยู่ที่ 5.90 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ 3.28% มูลค่าการซื้อขาย 1,441.19 ล้านบาท

GPSC Analyst meeting

GPSC Analyst meeting
-ดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้า โดยมีโรงไฟฟ้าก๊าซ แสงอาทิตย์ พลังน้ำรวมปัจจุบันมีการดำเนินการผลิไฟฟ้าแล้ว 1,315mw
-ยังมีแผนลงทุนที่อยู่ในpipelineอีจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตอีก536mwภายในปี2019
-รายได้เฉลี่ยย้อนหลัง3ปี25,000ล้านบาท กำไรสุทธิเฉลี่ย1,300ล้านบาท มีROEเฉลี่ย 6% แต่ผู้บริหารแจ้งว่าค่าROEจะดีขึ้นหลังจากเริ่มรับรู้กำลังการผลิตใหม่ที่ได้แจ้งไปแล้ว
-คาดจะipo 374.58ล้านหุ้นคิดเป็น25%ของทุนจดทะเบียน ที่ราคาพาร์10บาท
-เงินที่ได้จากการipoจะนำไปขยายการลงทุนและเป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัท แต่ยังไม่มีการกำหนดราคาipo
-Underwriter มี3 บริษัท FINANSA KTZMICO TISCO

น้ำมัน-ทองคำขึ้นหลังดอลล์อ่อน หุ้นสหรัฐฯดิ่งเหว

น้ำมัน-ทองคำขึ้นหลังดอลล์อ่อน หุ้นสหรัฐฯดิ่งเหว
Thursday, March 26, 2015  05:50

          กรุงเทพฯ--26 มี.ค.--ASTVผู้จัดการออนไลน์

          เอพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันขยับขึ้นเมื่อวันพุธ(25มี.ค.) จากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงแม้ข้อมูลชี้อุปสงค์เบาบาง ปัจจัยดังกล่าวก็ผลักให้ทองคำปิดบวกเช่นกัน ส่วนวอลล์สตรีทดิ่งลงหนัก จากแรงฉุดหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์และไบโอเทค
          น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เพิ่มขึ้น 1.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.37 ดอลลาร์ ปิดที่ 56.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          กระทรวงพลังงานสหรัฐฯเผยแพร่รายงานในวันพุธ(25มี.ค.) ระบุว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 20 มีนาคม เพิ่มขึ้น 8.2 ล้านบาร์เรล เหนือกว่านักวิเคราะห์คาดหมายไว้เกือบ 2 เท่า บ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอภายในชาติผู้บริโภคยักษ์ใหญ่
          อย่างไรก็ตามปัจจัยที่ดันให้น้ำมันปิดบวกในวันพุธ(25มี.ค.) เป็นผลจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งทำให้สินค้าโภคภัณฑ์มีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆที่แข็งค่ากว่า ส่งผลให้อุปสงค์ในตลาดเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว
          ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯเผยแพร่ข้อมูลบ่งชี้ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศดำเนินไปอย่างชะลอตัว ยังผลักให้ราคาทองคำเมื่อวันพุธ(25มี.ค.) ปิดบวกเช่นกัน ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 5.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,197.00 ต่อออนซ์
          ขณะเดียวกันข้อมูลทางเศรษฐกิจที่เติบโตแบบชะลอตัวของอเมริกา ประกอบกับแรงเทขายในหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์และไบโอเทค ฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ(25มี.ค.) ปิดลบอย่างหนัก
          ดาวโจนส์ ลดลง 292.60 จุด (1.62 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,718.54 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 30.45 จุด (1.46 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,061.05 จุด แนสแดค ลดลง 118.21 จุด (2.37 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,876.52 จุด
          ทั้ง 3 ดัชนีทรุดลงสู่แดนลบตั้งแต่ช่วงต้นของการซื้อขาย ตามข่าวข่าวคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯร่วงลงเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งส่งสัญญาณว่าภาคธุรกิจยังคงมีความระมัดระวังในการใช้จ่าย ท่ามกลางภาวะอุปสงค์โลกที่ซบเซา จากนั้นแรงขายทวีความหนักหน่วงยิ่งขึ้นในช่วงบ่าย โดยเฉพาะหุ้นของบริษัทอวาโก เทคโนโลยีส์ และสกายเวิร์คส โซลูชันส์--จบ--

Good Morning News 26 มีนาคม 2558

(Water Pail)Good Morning News 
26 มีนาคม 2558

Guru Corner

Bill Miller, ประธานกรรมการบริษัทและหัวหน้าทีมลงทุนของ Legg Mason Capital Management กล่าวว่า “สิ่งที่เราทำได้ คือเรียนรู้และใช้ประโยชน์จากข้อผิดพลาดของผู้อื่นซึ่งมักเกิดจากการลงทุนระยะสั้น หรือให้ความสำคัญต่อเหตุการณ์ต่างๆ ที่เข้ามากระทบ รวมถึงให้น้ำหนักกับผลลัพธ์ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากจนเกินไป”

General News

• ธนาคารกลางยุโรป (ECB) สั่งห้ามธนาคารพาณิชย์ของกรีซเพิ่มสัดส่วนการถือครองพันธบัตรระยะสั้นของรัฐบาล เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการชำระหนี้ของกรีซ การสั่งห้ามดังกล่าวเป็นการเพิ่มแรงกดดันให้กรีซรีบนำเสนอแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจประเทศ

• ดอยช์แบงก์ คาดการณ์ว่า การขาดสภาพคล่องของรัฐบาลกรีซอาจนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้มูลค่า 460 ล้านยูโร (502.5 ล้านดอลลาร์) ให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เนื่องจากปัจจุบันรายได้จากการจัดเก็บภาษีของกรีซยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมาย 

• ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีปรับตัวขึ้นแตะ 107.9 ในเดือน มี.ค. จาก 106.8 ในเดือน ก.พ. โดยปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค. 2557

• นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม ยืนยันว่า หากพรรคชนะการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 7 พ.ค. รัฐบาลจะไม่ปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อย่างแน่นอน ทั้งนี้ เรื่องภาษี VAT ถือเป็นจุดตายที่พรรคแรงงานใช้โจมตีพรรคอนุรักษ์นิยม ขณะที่ผลการสำรวจพบว่าจะไม่มีพรรคใดกวาดคะแนนเสียงครั้งใหญ่ในการเลือกตั้งครั้งนี้

• ชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) สาขาชิคาโก กล่าวว่า Fed ไม่ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจกำลังขยายตัว และการจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แต่เงินเฟ้อยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมายที่ 2% การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วไปจึงถือเป็นความเสี่ยง เนื่องจากอาจเกิดภาวะผันผวนจนกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศ

• ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของสหรัฐประจำเดือน มี.ค.ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว

• ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐในเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี นับตั้งแต่เดือนก.พ.2008 โดยเพิ่มขึ้น 7.8% ในเดือนที่ผ่านมา บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐหลังจากประสบภาวะซบเซา 

• ธนาคารกลางเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปี 2557 ขยายตัว 3.3% เพิ่มจากปี 2556 ที่ขยายตัว 2.9% จากการบริโภคในภาคเอกชนและการส่งออกที่มีแนวโน้มขยายตัว

Equity Market

สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม
กลุ่มนักลงทุน ล้านบาท
นักลงทุนสถาบัน +646.35
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ +289.87
นักลงทุนต่างชาติ -1,311.51
นักลงทุนทั่วไป +375.30

• SET Index ปิดที่ 1,512.80 จุด ลดลง 1.65 จุด (-1.65%) ด้วยมูลค่าซื้อขาย 32,704.51 ล้านบาท ดัชนีแกว่งตัวแคบ เนื่องจากความไม่มั่นใจของนักลงทุนในเรื่องเศรษฐกิจในประเทศ หลังธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปีนี้ลง รวมถึงยังไม่เห็นปัจจัยใหม่เข้ามาหนุนตลาด 

Fixed Income Market

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยอยู่ในช่วงระหว่าง -0.03% ถึง 0.00% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 83,843.51 ล้านบาท สำหรับวันนี้ไม่มีการประมูลพันธบัตร 


ที่มา   กองทุนบัวหลวง

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดซื้อขายเมื่อวานนี้ (25 มี.ค.)ร่วงลงมา 292.60 จุด

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดซื้อขายเมื่อวานนี้ (25 มี.ค.)ร่วงลงมา 292.60 จุด หรือ 1.62% มาอยู่ที่ 17,718.54 จุด ขณะที่ดัชนีเอส แอนด์ พี 500 ปรับลดลง 30.45 จุด หรือ 1.46% มาอยู่ที่ 2,061.05 จุด
ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก ดิ่งลงมา 118.21 จุด หรือ 2.37% ปิดซื้อขายที่ระดับ 4,876.52 จุด
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ตลาดมีความกังวลมากขึ้นว่า ราคาหุ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ จะทะยานขึ้นมาอยู่ในระดับสูง อย่างไม่สมเหตุสมผล หลังได้แรงหนุนจากการทดสอบยาตัวใหม่ในชั้นคลินิค ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในตลาดมานานหลายปีแล้ว
แรงเทขายที่เกิดขึ้นในตลาด ส่วนหนึ่งยังเป็นผลมาจากการเทขายทำกำไรในช่วงสิ้นสุดไตรมาส ประกอบกับการร่วงลง 1.4% ของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี สหรัฐ ในไตรมาสแรกของปีนี้ จะขยายตัวเพียง 1.2%
หุ้นที่มาแรงที่สุดในการซื้อขายเมื่อวานนี้ คือ คราฟท์ ฟูดส์ ผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ ทะยานขึ้นมาถึง 35.6% หลังมีการประกาศบรรลุข้อตกลง รับข้อเสนอซื้อกิจการจากไฮนซ์ โดยที่เบิร์กไชร์ แฮธาเวย์ กับ 3จี แคปิตอล บริษัทแม่ของไฮนซ์ ตกลงที่จะจ่ายเงินปันผลพิเศษจำนวน 16.50 ดอลลาร์ต่อหุ้น รวมมูลค่าราว 10,000 ล้านดอลลาร์ ให้กับผู้ถือหุ้นคราฟท์ ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาปิดตลาดของหุ้นคราฟท์ เมื่อวันอังคารที่่ผ่านมา ถึง 27%
ขณะที่ตลาดหุ้นในยุโรป ปรับตัวลดลงเกือบทั้งหมด ท่ามกลางความวิตกถึงสถานการณ์กรีซ
ดัชนีเอฟทีเอสอี 100 ของอังกฤษ ลดลง 0.41% มาอยู่ที่ 6,990.97 จุด ขณะที่ดัชนีแด็กซ์ 30 ของเยอรมนี ดิ่งลง 1.17% มาอยู่ที่ 11,865.32 จุด และ ดัชนีแค็ก40 ของฝรั่งเศส ร่วงลง 1.32% ปิดซื้อขายที่ 5,020.99 จุด
ความกังวลในเรื่องกรีซ กลับมาสู่ตลาดอีกครั้ง หลังมีรายงานว่าธนาคารกลางยุโรป หรืออีซีบี ซึ่งเข้าทำหน้าที่กำกับดูแลอุตสาหกรรมธนาคารทั่วทั้งยุโรป ตั้งแต่เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ได้ส่งหนังสือถึงธนาคารต่างๆ ในกรีซ เรียกร้องไม่ให้เพิ่มการถือครองพันธบัตรรัฐบาลกรีซ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเกิดกับสถานะเงินทุนของธนาคารเหล่านี้ เนื่องจากมีความกังวลว่า ดุลบัญชีของธนาคารกรีซ จะย่ำแย่ลง จากการถือจครองสินทรัพย์ที่มีคุณภาพต่ำ 
วิกฤติเยเมนหนุนราคาน้ำมันพุ่ง 
ราคาน้ำมันโลกปรับสูงขึ้นเมื่อวานนี้ ท่ามกลางความวิตกว่า ภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมืองในเยเมน อาจกลายเป็นภัยคุกคามต่อผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลาง ชดเชยความกังวลในเรื่องปริมาณน้ำมันสำรองสหรัฐ ที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เพิ่มขึ้นอีก 8.2 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ส่งมอบเดือนพฤษภาคม ที่ตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ ปรับขึ้น 1.70 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 49.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะเลเหนือ ส่งมอบเดือนเดียวกันที่ตลาดลอนดอน อังกฤษ ปรับขึ้น 1.37 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 56.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยหนุนจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ซึ่งช่วยให้น้ำมัน ที่ซื้อขายกันในสกุลเงินหลักของสหรัฐ มีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ใช้สกุลเงินที่แข็งค่ากว่า

"พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ (PMTA)" คาดเข้าเทรดปลาย เม.ย. ระบุราคา IPO ที่ 18 บ. มีส่วนลดเทียบกับ P/E กลุ่มเคมีภัณฑ์ สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -16 มี.ค. 58 14:54 น.

"พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ (PMTA)" คาดเข้าเทรดปลาย เม.ย. ระบุราคา IPO ที่ 18 บ. มีส่วนลดเทียบกับ P/E กลุ่มเคมีภัณฑ์
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -16 มี.ค. 58 14:54 น.
PMTA เคาะราคาขายหุ้น IPO ที่ 18 บาท ต่อหุ้น คำนวณที่ P/E ratio อยู่ที่ระดับ 6.4 เท่า ต่ำกว่า P/E ratio ของบริษัทที่ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมเดียวกัน ซึ่งเทรดอยู่ที่ 8.2 เท่า และต่ำกว่า P/E ratio ของกลุ่มบริษัทในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 13.2 เท่า มั่นใจผู้ถือหุ้น TTA ใช้สิทธิครบทั้งจำนวน เชื่อได้รับผลตอบแทนที่น่าพอใจ จากโอกาสเติบโตของ ‘บาคองโค’ ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปุ๋ยเคมีในประเทศเวียดนามที่มีศักยภาพสูง สามารถสร้างรายได้และกำไรให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง เผยได้เพิ่มไลน์การผลิต รองรับการเพิ่มกำลังการผลิตปุ๋ยอีก 1 แสนตัน เพื่อขยายการส่งออกเพิ่มขึ้น
นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ ประธานกรรมการ บริษัท พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PMTA เปิดเผยความคืบหน้าในการนำหุ้นของบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัทฯ ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้น (IPO) ที่ 18 บาทต่อหุ้น ซึ่ง ณ ระดับราคาดังกล่าว อัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E ratio) แบบ Fully diluted จะอยู่ที่ 6.4 เท่า ซึ่งต่ำกว่า P/E ratio ของ บริษัทที่ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมเดียวกัน ซึ่งเทรดอยู่ที่ 8.2 เท่า และต่ำกว่า P/E ratio ของหมวดธุรกิจปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 13.2 เท่า
ทั้งนี้ PMTA จะเสนอขายหุ้นจำนวนทั้งสิ้น 35.42 ล้านหุ้น ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ซึ่งถือหุ้นใน PMTA ร้อยละ 100 จำนวน 27.32 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ จำนวน 8.10 ล้านหุ้น ภายหลังการเสนอขายหุ้นดังกล่าว TTA จะลดสัดส่วนการถือหุ้นใน PMTA ลงเหลือร้อยละ 65 โดยบริษัทฯ จะเสนอขายหุ้นทั้งหมดให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของ TTA จองซื้อตามสัดส่วนการถือหุ้นก่อนในสัดส่วน 37 หุ้น TTA ต่อ 1 หุ้น PMTA และสามารถจองเกินสิทธิได้ในสัดส่วนไม่เกินกว่า 20% ของจำนวนหุ้นจองตามสิทธิ์ กำหนดจองซื้อและชำระค่าหุ้นในระหว่างวันที่ 30 มีนาคม – 3 เมษายน 
กรณีที่มีหุ้นเหลือจากการเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้น TTA จะเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไป ในระหว่างวันที่ 20-22 เมษายน และคาดว่า หุ้น PMTA จะเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ภายในเดือนเมษายน
“เราเชื่อมั่นว่า หุ้น PMTA จะได้รับการตอบรับจากผู้ถือหุ้น TTA ในการใช้สิทธิจองซื้ออย่างคึกคัก เพราะโอกาสในการเติบโตของ PMTA ซึ่งถือหุ้นร้อยละ 100 ในบริษัท บาคองโค จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปุ๋ยเคมีเพื่อการเกษตรชั้นนำในประเทศเวียดนาม จะสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่น่าพอใจให้กับผู้ถือหุ้นได้ เหมือนกับที่ TTA ได้รับจากบาคองโค นับตั้งแต่เราเข้ามาลงทุนในธุรกิจนี้ ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องและคุ้มค่ากับการลงทุนอย่างมาก” ประธานกรรมการ PMTA กล่าว
ด้านนายซิกมันต์ สตรอม กรรมการผู้จัดการ PMTA กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ปุ๋ยเคมีของบาคองโค ซึ่งจัดจำหน่ายภายใต้แบรนด์ “STORK” เป็นผลิตภัณฑ์มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายว่าเป็นผู้ผลิตปุ๋ยเคมีคุณภาพสูงและได้มาตรฐานสากล โดยปัจจุบันบาคองโค มีส่วนแบ่งการตลาดปุ๋ยเคมีในเกรดพรีเมียมในประเทศเวียดนามประมาณร้อยละ 25 และส่วนแบ่งการตลาดปุ๋ยทั่วไป ร้อยละ 9 มีลูกค้าหลักที่ทำธุรกิจขายส่งมากกว่า 130 รายทั่วประเทศ และยังมีเครือข่ายผู้จำหน่ายปุ๋ยในต่างประเทศอีกกว่า 10 ราย รวมทั้งส่งออกไปขายยังประเทศต่างๆ อีกกว่า 32 ประเทศ โดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคอาเซียนและกลุ่มประเทศในทวีปแอฟริกาที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
สำหรับผลการดำเนินงานของบาคองโคสำหรับรอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2555 - 2557 บาคองโคมีรายได้จากการขายและบริการ เท่ากับ 3,383 ล้านบาท, 3,246 ล้านบาท และ 3,221 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิเติบโตอย่างต่อเนื่องจาก 202.1 ล้านบาท เป็น 257.4 ล้านบาท และ 302.4 ล้านบาท ตามลำดับ 
“ที่สำคัญ คือ บาคองโคมีอนาคตที่สดใส จากการเติบโตของภาคเกษตรในเวียดนาม ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รวมถึงจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นทำให้ปริมาณความต้องการอาหารสูงขึ้น ตลอดจนทิศทางการขยายตัวของเศรษฐกิจและการเปิดเสรีทางการค้าในระดับภูมิภาค การขยายตลาดส่งออกใหม่ๆ ที่ทำให้บาคองโคต้องเพิ่มสายการผลิต เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีก 1 แสนตัน รองรับการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั้งหมดนั้น ทำให้บาคองโคมีโอกาเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต ผนวกกับจุดเด่นของบาคองโค ทั้งการบริหารจัดการและปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตอย่างสม่ำเสมอ การคิดค้นและผลิตปุ๋ยเคมีสูตรพิเศษตามความต้องการของลูกค้าที่ทำได้อย่างรวดเร็ว ยิ่งตอกย้ำให้บาคองโคมีศักยภาพในการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง” นายซิกมันต์ กล่าว
เรียบเรียง โดย ดาริน ปริญญากุล

วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2558

สรุปข่าว หนังสือพิมพ์ทันหุ้น ฉบับวันที่ 25 มี.ค. 2558

> สรุปข่าว หนังสือพิมพ์ทันหุ้น ฉบับวันที่ 25 มี.ค. 2558

PTGดีมานด์ดันยอดขายโตสยายปีกอัพสาขาทั่วไทย
PTG มั่นใจรายได้-กำไร Q1/2558 โดดเด่น หลังเดินหน้าขยายสาขาใหม่ตั้งแต่ต้นปีเพิ่มอีก 50 แห่ง เผยไม่มีผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันแม้ราคาค้าปลีกอยู่ในระดับต่ำ ยืนยันรายได้ปีนี้เติบโต 15-20% ตามเป้า ด้านโบรกส่องธุรกิจ PTG เติบโตแข็งแกร่ง คาดปริมาณขายปีนี้เติบโต 23% จากการทุ่มงบขยายสาขาใหม่ 250 แห่ง ประเมินกำไรพุ่งสูง 20%

ตุนITDเข้าพอร์ต-สตอรี่เพียบ งานในมือพุ่ง2.6แสนล.-เป้า12บ.
ITD รับข่าวดี 2 เด้ง จ่อเซ็นสายสีเขียวเหนือสัญญาที่ 1 มูลค่า 1.52 หมื่นล้านบาท ในเดือนเมษายนนี้ ดันงานในมือพุ่ง 2.6 แสนล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 2.49 แสนล้านบาท ขณะที่คาดใบประทานบัตรเหมืองแร่โปแตซ จังหวัดอุดรธานีจะมีความคืบหน้าในไตรมาส 2/2558 ส่วนนิคมทวายเฟสแรก คาดเซ็นสัญญาเร็วๆ นี้ โบรกเคาะเป้าไกล 12 บาท

SEAFCOเนื้อหอมไทย-ตปท.จ้องซื้อหุ้น-ซดงานใหม่2พันล.
SEAFCO เนื้อหอมกลุ่มทุนไทย-ฝรั่ง-กองทุน ดอดซื้อหุ้น หลังพื้นฐานแกร่งสร้างสถิติกำไร 2 ปีซ้อน "ณรงค์ ทัศนนิพันธ์" ชูคอปี 2558 กำไรทุบสถิติ ลุ้น CK ป้อนงานใหญ่รถไฟฟ้า และบิ๊กอสังหาส่งดีลรวม 2 พันล้านบาท แถมงานในพม่ารอเซ็นอีก 200 ล้านบาท จับตางบไตรมาส 1/2558 เริ่ด ฐานเงินทุนหนา D/E ต่ำ โบรกแนะสอยกำไรโตเร้าใจ

TPIPLสัญญาณกำไรโตแรงขึ้นแท่นผู้นำโรงไฟฟ้าขยะ 
TPIPL โชว์ผลงานสร้างสถิติยาว 3-4 ปี ขึ้นแท่นผู้นำโรงไฟฟ้าขยะ 199 เมกะวัตต์ ซดกำไรพุงกาง 5.01 พันล้านบาท เติบโต 276% เมื่อเทียบปี 2557 แถมมีโรงงานกำจัดขยะขั้นเทพ พร้อมผลิตกระแสไฟฟ้าขนาดใหญ่ชั้นแนวหน้าในไทยส่วนปี 2558 โรงปูนแห่งที่ 4 เดินหน้าผลิต ตั้งรับออเดอร์ล็อตใหญ่ในประเทศ โบรกเชียร์ซื้อสะสมมองเป้าหมาย 3.50 บาท

'BANPU'ปรับกลยุทธ์ธุรกิจรุกโรงไฟฟ้า'ตปท.'เสริมแกร่ง
กูรูส่องธุรกิจ BANPU คาดกำไรสุทธิปี 2558 ปรับตัวดีขึ้นจากปี 2557 เติบโต 21% และในปีนี้โรงไฟฟ้าหงสาเฟส 1 และ 2 เริ่มเดินเครื่องกำลังผลิตไฟฟ้า ส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้ารวมอยู่ที่ 1398 MW ส่วนแผนงานในอนาคตใส่เกียร์ขยายกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง แนะ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย ที่ 35.60 บาท

KTISขยายไลน์พลังงานชีวมวลปักธงครึ่งแรกงบทะลุ1.16พันล.
KTIS แย้มครึ่งแรกปี 2558 ผลงานแจ๋วกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรราว 1.16 พันล้านบาท บุ๊กยอดขายไฟฟ้าขนาด 60 เมกะวัตต์ หนุนมาร์จิ้นพุ่ง บิ๊ก "ณัฏฐปัญญ์ ศิริวิริยะกุล" ลั่นโปรเจ็กต์ใหม่กำลังผลิตรวม 100 เมกะวัตต์ฉลุย คาดรับทรัพย์ได้ไม่เกิน Q4/2558 ฟากโบรก เคาะเป้าหมาย 15 บาท

MALEEผุดศูนย์วิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์รองรับ'อาเซียน'
MALEE ตอกย้ำผู้นำด้านน้ำผลไม้ ผุดแผนสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Innovation Center) หวังเตรียมพร้อมรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนปลายปี โบรกแนะ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 40 บาท จากการขยายตลาด AEC

PLATพื้นฐานแข็งแกร่งงบโตกระโดด-เป้า8บาท
PLAT เผยเทรดวันแรกราคาต่ำจองจากราคา IPO ที่ 7.40 บาท ไม่หวั่นพื้นฐานแกร่ง พร้อมใส่เกียร์เดินหน้าธุรกิจเต็มสูบ ผุดบิ๊กโปรเจ็กต์ ปั๊มรายได้พุ่ง 3 เท่าตัว อัพกำไรโตกระโดด โบรกชี้รีบสะสม มองเป้าหมาย 8 บาท

'BWG'แตกพาร์-ขายPP วอร์แรนต์ฟรี-แจกปันผล
BWG บอร์ดไฟเขียวแตกพาร์จาก 1 บาท เหลือ 0.25 บาท พร้อมแจกปันผล 0.03 บาทต่อหุ้น พ่วงวอร์แรนต์ฟรี BWG-W2 และ BWG-W3 สัดส่วน 8 ต่อ 1 และ เพิ่มทุนขาย PP จำนวน 319.88 ล้านหุ้น ผู้บริหาร "สุวัฒน์ เหลืองวิริยะ" หวังโกยเงินระดมทุนเป็นเงินทุนหมุนเวียนรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต

MFECลุ้นคว้างาน1,000ล้าน หุ้นซ่อนมูลค่ากูรูเคาะเป้า11บ.
MFEC เดินหน้าประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง ชดเชยงานภาครัฐชะลอตัว ชี้มีลุ้นคว้าดีลงานใหญ่ภาคเอกชนรวมมูลค่า 1,000 ล้านบาท มั่นใจผลงานไตรมาสแรกเข้าเป้า กำไรใกล้เคียงปีก่อนที่ทำได้ 52 ล้านบาท หนุนกำไรทั้งปีโตเพิ่ม 10-15% ฟากนักวิเคราะห์ยกเป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม ICT ชี้ P/E ต่ำ ปันผลงาม แนะซื้อลงทุน ชี้เป้าราคา 11.00 บาท

TISCOรุกไมโครไฟแนนซ์ ปัก1ใน3สินเชื่อจำนำทะเบียน
กลุ่มธนาคารทิสโก้ ในเครือทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) เปิดตัวธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ ตั้งเป้าสินเชื่อปีนี้เติบโต 100% มาที่ระดับ 8 พันล้านบาท ขณะที่ยังคงเป้าสินเชื่อรวมของกลุ่มทั้งปีนี้เติบโต 1-2% หวังงานมอเตอร์โชว์จะช่วยกระตุ้นตลาดรถยนต์

RSทุ่มงบกว่า50ล้านบาท ดัน'คูลลิซึ่ม'ขยายฐานลูกค้า
สุธี ฉัตรรัตนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท คูลลิซึ่ม จำกัด ผู้บริหารคลื่น คูลฟาเรนไฮต์ 93 มองว่า แม้เม็ดเงินโฆษณาจะซบเซาในช่วงมกราคมที่ผ่านมา แต่ขณะนี้เริ่มเห็นสัญญาณการใช้เม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อวิทยุกลับมาคึกคักแล้ว จึงเชื่อว่าไตรมาส 2 ธุรกิจวิทยุจะกลับมามีการแข่งขันที่ดุเดือด น่าจับตาไม่แพ้ดิจิตอลทีวีแน่นอน เพราะสื่อวิทยุยังเป็นสื่อที่มีประสิทธิภาพเข้าถึงผู้ฟังกลุ่มคนทำงานได้ดี ทำให้ตั้งเป้าสิ้นปีนี้มีรายได้ 535 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 20% โดยมีปัจจัยมาจากกลยุทธ์ Soundation & Lifestyle Engagement ผนวกกับความแข็งแกร่งของแบรนด์คูล ฟาเรนไฮต์ 93 ที่สามารถครองความนิยมเป็นผู้นำสื่อวิทยุอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 15 จากการวัดเรตติ้งของเน็ลสันมีเดีย รีเสิร์ช

GCAPรุกนาโนไฟแนนซ์ปล่อยสินเชื่อไตรมาส3นี้
GCAP พร้อมลุยนาโนไฟแนนซ์ อยู่ระหว่างเตรียมยื่นขอใบอนุญาตจากแบงก์ชาติ คาดเริ่มปล่อยสินเชื่อได้ในไตรมาส 3/2558 เน้นกลุ่มลูกค้าเดิมที่มีข้อมูลอยู่แล้ว "สันติ หอกิติกุล" เอ็มดี ย้ำการทำนาโนไฟแนนซ์ เป็นธุรกินที่มีความเสี่ยง ต้องใช้ความระมัดระวัง มั่นใจจะเป็นบริการทางการเงิน เสริมแก่ธุรกิจได้อีกทางหนึ่ง

'FWD'ปรับรับกระแสดิจิตอลหวังเติบโตแซงหน้าตลาดรวม
"เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต" เดินเกมรุกสอดรับกระแสยุคดิจิตอล มุ่งต่อยอดการเติบโตปีนี้สูงกว่าอุตสาหกรรมโดยรวม 2 เท่า วางกลยุทธ์ 3 เสาหลัก เพิ่มประสิทธิภาพช่องทางขาย พร้อมอวดผลงานปี 2557 ปลื้มเบี้ยรับรวมพุ่งกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท

'KTAM'เตรียมรับเปิดAECมุ่งลงทุนเชิงรุกหุ้นกลุ่มอาเซียน
KTAM โฟกัสตลาดอาเซียน เตรียมรับเปิด AEC พร้อมส่งกองทุนใหม่ "กองทุนเปิดเคแทม อาเซียน อิควิตี้ ฟันด์" มุ่งลงทุนเชิงรุกหุ้นเด่นกลุ่มประเทศอาเซียนผ่านกองทุนรวมหลัก เผยผู้จัดการกองทุนรวมหลัก เพิ่มน้ำหนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยสูงกว่าตลาด จากความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ การลงทุน และการท่องเที่ยว

TAKUNIรับงานมาร์จิ้นสูงชูกำไรปีนี้พุ่งพรวด100%
TAKUNI ส่งบริษัทย่อย ทาคูนิ (ประเทศไทย) ร่วมทุน ซี เอ แซด (ประเทศไทย) หวังรับงานก่อสร้างเพิ่ม ตั้งเป้ารายได้รวมปี 2558 แตะ 1.4 พันล้านบาท คาดกำไรปี 2558 โตเพิ่มขึ้นกว่า 100%

APCOลั่นโตกระโดดตั้งศูนย์วิจัยอาเซียนเพิ่มทุน280ล้านหุ้น
APCO ลุยตลาด Digital Marketing เมษายนนี้ มั่นใจทั้งปี โตขึ้นก้าวกระโดดหากประสบความสำเร็จ พร้อมตั้ง "ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาเซียน เพื่อภูมิ(คุ้มกัน) สมดุล" เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมขายหุ้นเพิ่มทุน 280 ล้านหุ้น โดยไม่เกิด Dilution แต่มีผลตรงข้ามด้วยการให้ลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ทุก 1 บาท มีสิทธิ์ในการจองซื้อ 1 หุ้น และ สมนาคุณเพิ่มอีก 5%

UREKAแตกไลน์ธุรกิจเกษตรปลื้มQ1/58ออเดอร์ทะลัก
UREKA กางแผน 3 ปี เตรียมขยายไลน์ธุรกิจเกษตรกรรมต่อยอดรายได้ คาดชัดเจนครึ่งปีหลัง ส่งซิก งบ Q1/2558 แจ่ม หลังออเดอร์ไหลเข้าเพียบ ฟากผู้บริหารมั่นใจผลงานเทิร์นอะราวด์ ตั้งเป้ารายได้ทั้งปีพุ่งขึ้นกว่า 100% ตามอุตสาหกรรมยานยนต์ ล่าสุดตุนงานในมือกว่า 100 ล้านบาท

LDCเนรมิตสาขาพม่าลุยซื้อกิจการ-โกยเงินพันล.
LDC เปิดแผนขยายสาขาทันตกรรมในพม่า คาดได้ความชัดเจนปีนี้ พร้อมลุยซื้อกิจการในประเทศ วาดฝันปี 2560 ปั๊มยอดขายแตะ 1 พันล้านบาท มีสาขา 40 แห่ง ส่วนปีนี้ทุ่มงบ 100 ล้านบาท ผุดสาขาใหม่ 10 แห่ง พร้อมวางเป้ารายได้โต 10% จากปีก่อน

เงาหุ้น ยังลงต่อ!!

เงาหุ้น

ยังลงต่อ!!

โดย อินเด็กซ์ 51 25 มี.ค. 2558
  

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 24 มี.ค.58 ปิดที่ 1,514.45 จุด ลดลง 5.56 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 46,645.35 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 389.51 ล้านบาท

บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองว่าแรงขายหุ้นใหญ่ในกลุ่มแบงก์และสื่อสาร ที่คาดว่าน่าจะมาจากนักลงทุนต่างชาติ ที่เริ่มขายออกนับตั้งแต่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือ 1.75% ขณะที่การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลยังล่าช้า ไม่เห็นความคืบหน้าชัดเจน ส่วนการบริโภค และการส่งออกชะลอตัว

ขณะที่มองแนวโน้มตลาดระยะสั้นแกว่งตัวผันผวน ด้านเทคนิค หลังดัชนีหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,520 จุดลงมา ต้องลุ้นว่าจะหลุดระดับ 1,500 จุดหรือไม่ หากเอาไม่อยู่ ต้องไปรอกันที่แนวรับถัดไปที่ 1,450 จุด แต่หากดัชนีมีจังหวะรีบาวน์ ถ้าไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านสำคัญที่ 1,530 จุดได้ ก็จะเป็นสัญญาณไม่ดี

แนะกลยุทธ์ให้ทยอยซื้อหุ้นที่มีรายได้สม่ำเสมอ และได้รับผลกระทบจากความผันผวนจากภาวะเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกไม่มาก แนะนำหุ้น EA และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนาโนไฟแนนซ์ เช่น หุ้น SAWAD ด้านเทคนิคให้แนวรับ 1,500 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,520-1,530 จุด

ขณะที่ “วรุตม์ ศิวะศริยานนท์” กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บล.เอเชีย เวลท์ เผยสัปดาห์นี้ แนะนำลงทุนในหุ้น MAJOR เพราะคาดว่า MAJOR จะมีกำไรปี 58 โต 38% จากการขยายธุรกิจจอภาพยนตร์ เพิ่ม 97 จอ และมีโรงภาพยนตร์ใหม่ขนาด 8 จอ ที่ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ ของ The Mall Group ซึ่งจะสร้างรายได้จากสปอนเซอร์เพิ่มเติมในช่วง 3-5 ปี เคาะราคาเป้าหมายปีนี้ที่ 38 บาท

ส่วนภาพรวมตลาดสัปดาห์นี้ แนะให้ระมัดระวังการ Trading เพื่อเก็งกำไร เนื่องจากดัชนีตลาดกำลัง เคลื่อนไหวเป็น Side way down โดยด้านเทคนิค หากสิ้นเดือนนี้ ดัชนีปิดต่ำกว่า 1,497 จุด จะเป็นการส่งสัญญาณขาย (Sell signal) ของเดือนนี้ ประกอบกับในเดือนเมษายน เป็นช่วงการจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งจะทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงอยู่แล้ว แต่สำหรับมุมมองระยะยาวยังคงมีมุมมองบวกต่อการลงทุนในหุ้น

ปิดท้ายหุ้น CYBER “นพพล มิลินทางกูร” พยายามกู้ซากราคาหุ้นที่ร่วงลงเละเทะ โดยออกมายืนยันข่าวดี ว่าปีนี้รายได้กำไรเทิร์นอะราวด์แน่นอน เตรียมเข้าซื้อกิจการ “อันดามันเพาเวอร์แอนด์ ยูทิลิตี้” ที่จะรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าให้รัฐบาลเมียนมาร์ 20 MW ทันที ภายใน เม.ย.นี้ พร้อมเซ็น MOU ขายไฟฟ้าอีก 150–200 MW.....จบนะ!!

Good Morning News จาก กองทุนบัวหลวง .. มิตรแท้ตลอดเส้นทางลงทุน

Good Morning News จาก กองทุนบัวหลวง .. มิตรแท้ตลอดเส้นทางลงทุน
------------------------------------------
25 มีนาคม 2558
General News
• ประธาน ECB เปิดเผยว่า ECB จะดำเนินการตามกฎระเบียบเดิมที่ใช้อยู่และจะไม่ให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมเพื่อจัดการปัญหาสภาพคล่องในกรีซ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลกรีซดำเนินการตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับเจ้าหนี้ทุกรายอย่างเคร่งครัด
• PMI ภาคการผลิตและบริการของยูโรโซน เดือน มี.ค. ปรับขึ้นแตะ 54.1 เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน และสูงสุดในรอบ 46 เดือน เนื่องจากการขยายตัวของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
• รมต.พลังงานยูเครน เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือน เม.ย.นี้ ยูเครนจะหยุดนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย โดยจะใช้เชื้อเพลิงที่ซื้อจากตลาดสปอตของยุโรปในราคาที่ถูกกว่าก๊าซที่นำเข้าจากรัสเซียเป็นการชั่วคราว
• ประธาน FED ซานฟรานฯ เปิดเผยว่า FED ควรพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปีนี้ จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องทั้งในภาคแรงงานและภาคการผลิต ขณะที่เงินเฟ้อน่าจะเพิ่มขึ้นสู่เป้าหมายของ FED ที่ 2% อีกครั้ง
• กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงของชาวอเมริกันหลังหักเงินเฟ้อ ปรับลดลง 0.1% ในเดือน ก.พ. เมื่อเทียบจากเดือนม.ค. เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อได้หักชดเชยกับค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงที่เพิ่มขึ้น 0.1%
• S&P คงอันดับความน่าเชื่อถือของบราซิลไว้ที่ BBB- และปรับแนวโน้มจาก “เชิงลบ” มาเป็น “เสถียรภาพ” แสดงว่า S&P ยังไม่มีแผนที่จะปรับลดอันดับเครดิตของบราซิลในระยะอันใกล้นี้
• PMI ภาคการผลิตญี่ปุ่น เดือน มี.ค.ลดลงแตะ 50.4 จาก 51.6 ในเดือนก่อนหน้า แสดงถึงการขยายตัวในอัตราที่อ่อนแรงลง แม้ว่าคำสั่งซื้อใหม่จากต่างประเทศที่ได้รับผลจากการอ่อนค่าของเงินเยนจะเพิ่มสูงขึ้นก็ตาม
• HSBC รายงาน PMI ภาคการผลิตจีน เดือน มี.ค. ลดลงแตะ 49.2 จาก 50.7 ในเดือนก่อนหน้า ต่ำสุดในรอบ 11 เดือน แสดงถึงอุปสงค์ภายในประเทศที่ชะลอตัวลง ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้นโยบายกระตุ้นเพิ่มเติม
• ADB คาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 2558 ไว้ที่ 3.6% และในปี 2559 ที่ 4.1% โดยมองว่าการใช้จ่ายของภาครัฐตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง 8 ปี มูลค่ากว่า 3 ล้านล้านบาท จะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้กลับมาขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
• เดอเบียร์ส (De Beers) บริษัทผู้ผลิตเพชรรายใหญ่ที่สุดของโลก รายงานว่า ราคาเพชรทั่วโลกกำลังจะเพิ่มสูงขึ้น โดยเป็นผลจากความต้องการเพชรในตลาดโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดในสหรัฐฯและจีน ที่มีความต้องการเพชรเพิ่มขึ้น 7% และ 6% ตามลำดับในปี 2557
Equity Market
สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม
กลุ่มนักลงทุน ล้านบาท
นักลงทุนสถาบัน +468.39
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ -236.28
นักลงทุนต่างชาติ -389.51
นักลงทุนทั่วไป +157.40
• SET Index ปิดที่ 1,514.45 จุด ลดลง 5.56 จุด (-0.37%) ด้วยมูลค่าซื้อขาย 46,645.35 ล้านบาท ดัชนีปรับลงในทิศทางเดียวกับตลาดในภูมิภาค จากความกังวลต่อการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีน รวมถึงผลการเจรจาแก้ไขปัญหาหนี้ของกรีซ
Fixed Income Market
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยอยู่ในช่วงระหว่าง -0.02% ถึง 0.00% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 73,411.13 ล้านบาท สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตรรัฐบาล อายุ 15 ปี มูลค่า 14,000 ล้านบาท

หันเล่นหุ้นมือใหม่