ศก.ฟื้นรูป U-Shape
วงล้อเศรษฐกิจ
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics
หลัง คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติเสียงแตก 4 ต่อ 3 ตัดสินใจหั่นอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ 1.75% ในการประชุมวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา สร้างความกังวลให้หลายฝ่าย เพราะเท่ากับอาจเป็นการส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจไทยยังคงอ่อนแอ
ทำ ให้ทางศูนย์วิเคราะห์ฯ ยังคงมองว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยปีแพะจะเป็น U-Shape และยืนประมาณการจีดีพีที่ต่ำกว่าตลาดส่วนใหญ่ไว้ที่ 3.5% โดยฟันเฟืองที่จะมาช่วย ขับเคลื่อนจะมาจากอุปสงค์ในประเทศมากกว่าภาคการส่งออก
แรง ผลักดันสำคัญจะมาจากเม็ดเงินของภาครัฐ ทั้งในส่วนของการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น อาทิ เงินช่วยเหลือต้นทุนเกษตรกรเพาะปลูกข้าว/ยางพารา เงินบรรเทาวิกฤตภัยแล้งผ่านแจกเงินตำบลละล้าน (วงเงิน 3,174 ล้านบาท) รวมทั้งโครงการสร้างการจ้างงานชนบท/เกษตรกรซ่อมแซมถนนทั่วประเทศ อีก 4 หมื่นล้านบาท น่าจะช่วยหนุนให้การบริโภครวมในปีนี้ขยายตัวได้ 3.5% จากปีก่อนที่ขยายตัวเพียง 0.7%
ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ระยะยาวจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ รถไฟทางคู่ ที่ไทยและจีนได้ตกลงร่วมลงทุนในปลายปีนี้ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีเขียว คาดหวังว่าจะเป็นปัจจัยผลักดันให้เกิดการลงทุนของภาคเอกชนควบคู่กัน คาดว่าปีนี้การลงทุนรวมน่าจะขยายตัวได้ 6.1% จากที่หดตัวเกือบ 3% ในปี 2557
ส่วน ภาคการส่งออก กำลังซื้อที่อ่อนแอจากคู่ค้าหลักอย่างยุโรปและญี่ปุ่นยังคงน่าเป็นห่วง เศรษฐกิจจีนก็ยังอยู่ในระหว่างการปฏิรูปประเทศ กระทบต่อการนำเข้าสินค้าจากไทย อีกทั้งราคาสินค้าโภคภัณฑ์ลดลงมาก ทำให้คาดว่าการส่งออกของไทยในปีนี้ (ในรูปดอลลาร์สหรัฐ) น่าจะเติบโตได้เพียง 1% เท่านั้น
อย่างไรก็ดี การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวได้ดีและเร็วจากผลกระทบการเมือง น่าจะช่วยชดเชยอุปสงค์จากการส่งออกสินค้าที่ลดลงได้บางส่วน จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีก่อน และขยายตัวสูง 15.9% ในเดือนม.ค. ทำให้คาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้จะอยู่ที่ 27 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 9%
แม้ว่าระดับขยายตัวเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้นมากจาก ปีที่ผ่านมาที่ขยายตัวเพียง 0.7% แต่ยังเป็นการขยายตัว ต่ำกว่าระดับศักยภาพ และมีความเสี่ยงโน้มเอียงไปทาง ด้านลบมากกว่าด้านบวก
ที่มา..ข่าวสดออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น