หน้าเว็บ

ข่าวทันหุ้นวันนี้

วันพุธที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2558

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดซื้อขายเมื่อวานนี้ (25 มี.ค.)ร่วงลงมา 292.60 จุด

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดซื้อขายเมื่อวานนี้ (25 มี.ค.)ร่วงลงมา 292.60 จุด หรือ 1.62% มาอยู่ที่ 17,718.54 จุด ขณะที่ดัชนีเอส แอนด์ พี 500 ปรับลดลง 30.45 จุด หรือ 1.46% มาอยู่ที่ 2,061.05 จุด
ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก ดิ่งลงมา 118.21 จุด หรือ 2.37% ปิดซื้อขายที่ระดับ 4,876.52 จุด
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ตลาดมีความกังวลมากขึ้นว่า ราคาหุ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ จะทะยานขึ้นมาอยู่ในระดับสูง อย่างไม่สมเหตุสมผล หลังได้แรงหนุนจากการทดสอบยาตัวใหม่ในชั้นคลินิค ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในตลาดมานานหลายปีแล้ว
แรงเทขายที่เกิดขึ้นในตลาด ส่วนหนึ่งยังเป็นผลมาจากการเทขายทำกำไรในช่วงสิ้นสุดไตรมาส ประกอบกับการร่วงลง 1.4% ของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี สหรัฐ ในไตรมาสแรกของปีนี้ จะขยายตัวเพียง 1.2%
หุ้นที่มาแรงที่สุดในการซื้อขายเมื่อวานนี้ คือ คราฟท์ ฟูดส์ ผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ ทะยานขึ้นมาถึง 35.6% หลังมีการประกาศบรรลุข้อตกลง รับข้อเสนอซื้อกิจการจากไฮนซ์ โดยที่เบิร์กไชร์ แฮธาเวย์ กับ 3จี แคปิตอล บริษัทแม่ของไฮนซ์ ตกลงที่จะจ่ายเงินปันผลพิเศษจำนวน 16.50 ดอลลาร์ต่อหุ้น รวมมูลค่าราว 10,000 ล้านดอลลาร์ ให้กับผู้ถือหุ้นคราฟท์ ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาปิดตลาดของหุ้นคราฟท์ เมื่อวันอังคารที่่ผ่านมา ถึง 27%
ขณะที่ตลาดหุ้นในยุโรป ปรับตัวลดลงเกือบทั้งหมด ท่ามกลางความวิตกถึงสถานการณ์กรีซ
ดัชนีเอฟทีเอสอี 100 ของอังกฤษ ลดลง 0.41% มาอยู่ที่ 6,990.97 จุด ขณะที่ดัชนีแด็กซ์ 30 ของเยอรมนี ดิ่งลง 1.17% มาอยู่ที่ 11,865.32 จุด และ ดัชนีแค็ก40 ของฝรั่งเศส ร่วงลง 1.32% ปิดซื้อขายที่ 5,020.99 จุด
ความกังวลในเรื่องกรีซ กลับมาสู่ตลาดอีกครั้ง หลังมีรายงานว่าธนาคารกลางยุโรป หรืออีซีบี ซึ่งเข้าทำหน้าที่กำกับดูแลอุตสาหกรรมธนาคารทั่วทั้งยุโรป ตั้งแต่เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ได้ส่งหนังสือถึงธนาคารต่างๆ ในกรีซ เรียกร้องไม่ให้เพิ่มการถือครองพันธบัตรรัฐบาลกรีซ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเกิดกับสถานะเงินทุนของธนาคารเหล่านี้ เนื่องจากมีความกังวลว่า ดุลบัญชีของธนาคารกรีซ จะย่ำแย่ลง จากการถือจครองสินทรัพย์ที่มีคุณภาพต่ำ 
วิกฤติเยเมนหนุนราคาน้ำมันพุ่ง 
ราคาน้ำมันโลกปรับสูงขึ้นเมื่อวานนี้ ท่ามกลางความวิตกว่า ภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมืองในเยเมน อาจกลายเป็นภัยคุกคามต่อผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลาง ชดเชยความกังวลในเรื่องปริมาณน้ำมันสำรองสหรัฐ ที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เพิ่มขึ้นอีก 8.2 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ส่งมอบเดือนพฤษภาคม ที่ตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ ปรับขึ้น 1.70 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 49.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะเลเหนือ ส่งมอบเดือนเดียวกันที่ตลาดลอนดอน อังกฤษ ปรับขึ้น 1.37 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 56.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยหนุนจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ซึ่งช่วยให้น้ำมัน ที่ซื้อขายกันในสกุลเงินหลักของสหรัฐ มีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ใช้สกุลเงินที่แข็งค่ากว่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หันเล่นหุ้นมือใหม่