หน้าเว็บ

ข่าวทันหุ้นวันนี้

วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2558

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 27.55 จุด วิตกดอลล์แข็ง,เฟดขึ้นดบ.

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 27.55 จุด วิตกดอลล์แข็ง,เฟดขึ้นดบ.

          สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 มี.ค. 58)—ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มรายได้ของบริษัทส่งออก
         ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,635.39 จุด ลดลง 27.55 จุด หรือ -0.16% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,849.94 จุด ลดลง 9.85 จุด หรือ -0.20% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,040.24 จุด ลดลง 3.92 จุด หรือ -0.19%
          ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับปัจจัยลบจากความกังวลที่ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วขึ้น หลังจากมีกระแสคาดการณ์จากบรรดานักวิเคราะห์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐนั้น สะท้อนถึงการฟื้นตัวขึ้นของเศรษฐกิจภายในประเทศ และอาจจะส่งผลให้เฟดตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในช่วงกลางปีนี้
         ชินอิจิโร่ คาโดตะ นักยุทธศาสตร์ด้านปริวรรตเงินตราต่างประเทศจากธนาคารบาร์เคลย์ส กล่าวว่า บรรดาผู้สังเกตการณ์ในตลาดต่างคาดการณ์ว่า ในการประชุมสัปดาห์หน้านี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดอาจจะเลิกใช้คำว่า “อดทน” ในการพิจารณากำหนดเวลาสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.นี้
         ส่วนเมื่อเดือนที่แล้ว นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะเปลี่ยนแถลงถ้อยคำในสัญญาณชี้นำล่วงหน้า  (Forward Guidance) ด้วยการเลิกใช้คำว่า “อดทน” เมื่อพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
         ทั้งนี้ การคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น และทำให้เกิดความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทส่งออกในสหรัฐ โดยผลการสำรวจความคิดเห็นของประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน (CFO) ทั่วโลกซึ่งจัดทำโดย Duke University/CFO Magazine Global Business Outlook ระบุว่า ผู้บริหารส่วนใหญ่มองว่าการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐได้ส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกของประเทศ และอาจจะเป็นอุปสรรคต่อแผนการลงทุนของบริษัทในปีหน้า
          หุ้นไทสัน ฟู๊ด ร่วงลง 5.6% ขณะที่หุ้นพิลกริมส์ ไพร์ด ดิ่งลง 4.4% 
          อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้น นำโดยหุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 3.1% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับขึ้น 3.1% เช่นกัน
          นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนก.พ.,  สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนม.ค., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนมี.ค.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หันเล่นหุ้นมือใหม่