หน้าเว็บ

ข่าวทันหุ้นวันนี้

วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2558

แนวโน้มตลาดหุ้นเดือนมีนาคม

แนวโน้มตลาดหุ้นเดือนมีนาคม 

mail Email  divider  pdf PDF (2861kb)
Research by: MBKET Research

เป้าหมาย 1650 จุด เริ่มต้องลุ้นมากขึ้น
SET Index ไปได้ถึง 1620 จุด ตลาดหุ้นเดือน ก.พ.ปรับตัวขึ้นได้สูงสุดที่ 1620 จุด ต่ำกว่าเป้าหมายที่เราคาดไว้ที่ 1650 จุด แต่ก็ถือว่าเป็นระดับที่สูงสุดที่เกิดขึ้นในรอบ 21 เดือน นับตั้งแต่เดือน พ.ค.2556 ที่ SET Index ปรับตัวขึ้นไปที่ 1649.77 จุด ก่อนที่จะลดลงจากผลกระทบจากการหยุดมาตรการ QE ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทั้งนี้ SET Index เดือน ก.พ.ปิดที่ระดับ 1587.01 จุด +0.36% จากเดือน ม.ค. และ +5.96% นับจากสิ้นปี 2557 โดยมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 53,577 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือน ม.ค.ที่ 49,274 ล้านบาท ด้าน นักลงทุนต่างประเทศกลับมาเป็นผู้ขายสุทธิ 6,898 ล้านบาท ในเดือน ก.พ.ส่งผลให้มีมูลค่าขายสุทธิตั้งแต่เดือน ม.ค.รวมกัน 11,198 ล้านบาท กดดันหุ้นกลุ่มหลักอย่างธนาคารพาณิชย์ (-4.07%) กลุ่มอาหาร (-2.77%) กลุ่มท่องเที่ยว (-2.35%) กลุ่มขนส่ง (-2.07) และ กลุ่มสื่อสาร (-2%) ส่วนกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นโดดเด่น ได้แก่ กลุ่มการเงิน (+12.96%) การแพทย์ (+8.99%) วัสดุก่อสร้าง (+7.6%) และ ปิโตรเคมี (+3.86%) เป็นต้น
เดือน มี.ค.ยังคงมีลุ้นเห็น SET Index ที่ 1650 จุด เราประเมินว่า SET Index ในเดือน มี.ค.ยังคงมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปที่ 1620 – 1650 จุด จากปัจจัยแวดล้อมที่ความเสี่ยงภายนอกประเทศลดลง แต่มีเงื่อนไขว่า 1) เงินทุนต่างชาติต้องไหลเข้าหลังจาก ECB เริ่มมาตรการ QE และ 2) ต้องมีความคืบหน้าของโครงการลงทุนของรัฐบาล ทั้งนี้ เรายังคงยืนยันมุมมองว่าไตรมาสที่ 1/58 เป็นช่วงที่ดีที่สุด ซึ่งทำให้ตลาดฯในไตรมาสที่ 2/58 จะเริ่มผันผวนแรงขึ้น โดยเฉพาะหากผ่านช่วงที่มีการขึ้นเครื่องหมาย XD ไปแล้ว ประกอบกับเป็นช่วงที่ตลาดฯจะเริ่มกังวลมากขึ้นหากเฟดยังคงส่งสัญญาณว่ามีโอกาสขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วง 2H58 (เราคาดไว้ในเดือน ก.ย.58)
ประเด็นที่ต้องติดตาม 1.การประชุม FOMC วันที่ 19 มี.ค.ซึ่งนักลงทุนกำลังรอฟังสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2.การประชุม กนง.วันที่ 11 มี.ค.เราคาดคงอัตราดอกเบี้ย แต่หากลดจะส่งผลกระทบให้ค่าเงินบาทผันผวน และ 3.โครงการลงทุนของรัฐบาลซึ่งกำลังกลายเป็นความเสี่ยงสำหรับตลาดฯเนื่องจากความล่าช้าในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ ตลาดฯกำลังรอความชัดเจนเกี่ยวกับโครงการลงทุนในทวาย รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า และ เศรษฐกิจดิจิทรัล ซึ่งล้วนแล้วแต่มีผลกระทบโดยตรงต่อการเติบโตของผลการดำเนินงานของบจ.
กลยุทธ์การลงทุนเดือน มี.ค.- ซื้อสะสมกลุ่มสื่อสาร และ ซื้อเก็งกำไรหุ้นที่เกี่ยวกับการบริโภคในประเทศ สำหรับเดือน มี.ค.เรามีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ โดยเพิ่มหุ้นที่เกียวกับการบริโภคในประเทศ ได้แก่ อาหาร และ สื่อบันเทิง ได้แก่ CBG MONO เนื่องจากเห็นโอกาสของการซื้อเก็งกำไรระยะสั้น ในช่วงที่ราคาหุ้นยังคงไม่แพง ในขณะที่การบริโภคในประเทศมีแนวโน้มว่าผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 4Q57 โดยนำหุ้นออก 3 หุ้น ได้แก่ SCC, SAMART หลังจากราคาหุ้นปรับตัวโดดเด่นจนทำให้ Upside gain เหลือน้อย และ HMPRO หลังจากราคาเพิ่มขึ้น 6%MoM สำหรับ กลุ่มสื่อสารซึ่งให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าคาดในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา แต่เรายังคงเชื่อมั่นว่าการประมูล 4G จะเกิดได้ภายในเดือน ก.ย. จึงแนะนำ ซื้อสะสม กลุ่มรับเหมาก่อสร้างราคาหุ้นเริ่มทรงตัวหลังจากปรับตัวขึ้นโดดเด่นในเดือน ม.ค. เนื่องจาก ยังคงไม่มีงานประมูลออกมาจากภาครัฐบาลแต่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นในไม่ช้า กลุ่มวัสดุก่อสร้าง เป็นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนดีมากในเดือน ก.พ.คาดว่า ราคาหุ้นจะเริ่มทรงตัว จึงแนะนำ ลดพอร์ตบางส่วนเพื่อซื้อคืนเมือราคาอ่อนตัว
• ADVANC : คาดการเปิดประมูล 4G เกิดขึ้นภายในเดือน ก.ย. ราคาหุ้นลดลงเป็นโอกาสดี
• BANPU : แนะนำ ซื้อเก็งกำไรในช่วงที่ราคาหุ้นอ่อนตัว เนื่องจาก แนวโน้มของธุรกิจที่หันไปทางด้านไฟฟ้าจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้หุ้นได้ในอนาคต
• BMCL : โครงการส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินเริ่มมีความชัดเจนเป็นปัจจัยหนุนระยะสั้น
• CBG : การบริโภคในประเทศเริ่มฟื้นตัว ภาระทางเงินที่ลดลงส่งผลบวกต่อกำไรสุทธิปี 2558
• CK : ราคาหุ้นทรงตัวระหว่างรอการประมูลใหม่ แต่มูลค่าเงินลงทุนในบริษัทลูกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
• GOLD : ราคาหุ้นยังคงไม่สะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่ดีขึ้น รวมถึง ผลบวกจากการการรวม KLAND
• MONO : คาดผลประกอบการปี 2558 เติบโตโดดเด่น จากการปรับเพิ่มค่าโฆษณาอย่างมีนัยสำคัญ
• PTT : การฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบส่งผลบวกต่อผลการดำเนินงาน 1Q58
• TASCO : ผลการดำเนินงานดีต่อเนื่อง ได้รับประโยชน์จากโครงการสร้างถนน
• VGI : คาดผลการดำเนินงานจะเริ่มเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้นตั้งแต่เดือน เม.ย.58

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หันเล่นหุ้นมือใหม่