นสพ ข่าวหุ้นNews summary: สรุปข่าวประจำวันที่ 25 ก.ย.57

สรุป SET100 วันนี้ LOXLEY บวกสูงสุด 5.29%

สรุปซื้อขายกระดานรายใหญ่วันนี้ TRUE มูลค่าสูงสุด 2.16 พันลบ.

ตลท.ขึ้น H หุ้น ADAM หลังไม่

แจ้งกรณีผถห.ไฟเขียวซื้อ

"กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์"

ADAM ซิลลิ่ง 2 วันติด เมินก.ล.ต.เตือนผถห.ใช้สิทธิออกเสียงกรณีขายทรัพย์สินวันนี้

DIMET ชี้แจง Trading Alert List

KTP แจงกรณี Trading Alert List

ADB หั่นคาดการณ์ศก.ไทยปีนี้เหลือโต 1.6% จากเดิม 2.9%

30 ก.ย.นี้กสทช.ชี้ชะตาช่อง 3 หลังนัดประชุมบอร์ดนัดพิเศษ

TICON ประกาศร่วมมือตั้งกอง TREIT ขนาด 4-5 พันลบ.เสนอขาย Q4 นี้

PTTGC จับมือ KTIS-กลุ่มน้ำตาลใหญ่ในปท. ศึกษาลงทุนพัฒนา Biohub

BCP คาด Q3/57 ขาดทุนสต็อกน้ำมัน พลิกมีกำไรใน Q4/57 ตั้งงบปี 58 ไม่ต่ำกว่า 9 พันลบ.

IFEC ชี้แจงข่าวลือกรณีบันทึกบุ๊คกำไรพิเศษ 100 ลบ.

PS มั่นใจรายได้ปีนี้เป็นไปตามเป้า เล็งเปิดโครงการใหม่ไม่ต่ำกว่า 60-70 โครงการในปี 58

EA ตั้ง SCB เป็นที่ปรึกษาการเงิน ลุยโซลาร์ฯ-พลังงานลม มูลค่า 2.6 หมื่นลบ.

TWZ ตั้งเป้ารายได้ปี 58 แตะ 5 พันลบ.เตรียมขยายธุรกิจทุกด้านหลังได้เงินเพิ่มทุน

UNIQ บวกกว่า 3% หลังแจ้งขายหุ้นเพิ่มทุนให้นักลงทุนสถาบัน 18 ราย ซื้อขาย 26 ก.ย.นี้

TFD พุ่งเกือบ 10% หลังผนึก SPCG ลุยโซลาร์รูฟ-กางแผนตั้งกอง REIT ราว 3 พันลบ

.

BEAUTY บวก 6.25% หุ้นปันผลสูง รุกขยายสาขาในตปท. เก็งกำไรโตเด่นใน 3 ปีข้างหน้า

BBL ร่วงเกือบ 3% หลังมีกระแสข่าว MSCI จ่อปรับลดน้ำหนักการลงทุน

เก็บ BMCL ช่วงอ่อนตัว ชี้โดนเบรกประมูลไม่กระทบ-โอกาสได้งานยังสูงกว่าคู่แข่ง

IFEC พุ่งนิวไฮ กูรูอัพเป้าสู่ 8.97 บ.แผนร่วมทุนดันธุรกิจแข็งแกร่ง-ขึ้น Top Pick กลุ่ม

ผู้ถือหุ้นใหญ่เทขาย SLC หมดหน้าตัก

BLAND แจงรายการซื้อหุ้นคืน 7 ล้านหุ้น มูลค่ากว่า 14 ลบ.

บอร์ด TVD ไฟเขียวปันผลเป็นหุ้น-เงินสด 0.50 บ./หุ้น

ฮั่งเส็งปิดลดลง 153.48 จุด ต่อเนื่องจากช่วงเช้า

เงินเยนอ่อน หนุนนิกเกอิปิดพุ่ง 206.69 จุด

News summary: สรุปข่าวประจำวันที่ 24 ก.ย.

สรุป SET100 วันนี้ TPIPL บวกสูงสุด 5.82%

สรุปซื้อขายกระดานรายใหญ่วันนี้ INTUCH มูลค่าสูงสุด 182.09 ลบ.

ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีเตรียมยื่น กสทช. ขยายเวลาจอดำช่อง 3

JMT คาด Q3/57 ธุรกิจเติบโตโดดเด่น มั่นใจปีนี้กำไรโต 50% ตามเป้า

ด่วน! แนะเลี่ยงเส้นทางเยาวราชวันนี้

SIRI ตั้งเป้ายอดขายลูกค้าต่างชาติปีนี้ที่ 1.1 พันลบ.โว 8 เดือนแรกกวาดไป 585 ลบ.

MILL วิ่งรับข่าวดี คาดชนะประมูล บันทึกกำไร 2 พันลบ.

ฮั่งเส็งปิดบวก 84.54 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นจีน

TRUE เผชิญแรงขาย หลัง FTSE ลดน้ำหนักหุ้นลงจากการปรับ Free-float กรณีขายหุ้น PP

TFD คาดปีนี้พลิกมีกำไร เล็งตั้งกอง REIT มูลค่า 3 พันลบ. จ่อนำ 2 บ.ลูกเข้าเทรด

GEL อ่อนตัว กูรูคาดงบฯปีนี้โตก้าวกระโดด หลังอัดกลยุทธ์ยอดขาย-ปักธงสร้างรง.ในพม่า

BTS มั่นใจรายได้ Q2/57 ดีขึ้น รุกประมูลเดินรถไฟฟ้าทั้งใน-ตปท.

SPCG เซ็น MOU กับ TFD ร่วมศึกษาธุรกิจโซลาร์รูฟ

LOXLEY ร่วงกว่า 3% หลังบริษัทจะขายหุ้นเพิ่มทุน ต่ำกว่าราคาตลาด

แท็กซี่ยื่นเรื่องนายกฯ พิจารณาขึ้นค่าโดยสาร 20% ตามระยะทาง

“เค.ซี.เมททอลชีท"ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 200 ล้านหุ้น คาดเข้าเทรด mai ช่วง Q4/57

วิตกสถานการณ์ซีเรีย ฉุดนิกเกอิปิดลบ 38.45 จุด

WAT ยกเลิกซื้อ"วิลล่า นครินทร์" หลังผู้ถือหุ้นไม่ขาย

ปัจจัยในปท. แกร่งหนุน SET ปิดเช้าบวก 3.01 จุด บ่ายผันผวน แนวรับ 1,580 จุด

TUF เข้า DJSI Emerging Markets เป็นรายแรกกลุ่มอาหาร เร็วกว่าคาด 2 ปี

PTTEP ดีดบวก เตรียมรับรู้การส่งก๊าซ Zawtika เต็มที่ใน Q4/57 ปริมาณการผลิตปีนี้โตเด่น

กรมศุลฯเตือนลักลอบนำเข้าไอโฟน 6 มีความผิด-ลุยตรวจ MBK

PHOL คาดครึ่งปีหลังรายได้-กำไรสวย โชว์จุดแข็งปันผลปีละ 2 ครั้ง

ก.ล.ต.ปรับเกณฑ์แก้ไขฐานะเงินกองทุนบล.ที่มีปัญหาลดผลกระทบต่อผู้เกี่ยวข้อง

INTUCH บวกต่อ ขานรับร่วมทุน “กันตนา” ตัวเต็ง Window Dressing

DTAC วิ่งได้อีก โบรกฯเคาะเป้าถึง 120.50 บ. Q4 พีคสุด-คาดกำไรทั้งปีทะลุ 1.27 หมื่นลบ.

SCB มองตลาดสินเชื่อทั้งปีโต 6-9% ตั้งเป้ารักษากำไร-รายได้ต่อเนื่อง

BTS พุ่งนิวไฮ ยิ้มรับข่าวดีเตรียมเดินเท้าเข้าบริหารแอร์พอร์ตลิงค์ กูรูชี้ปันผลยังแจ่ม

BLAND รายงานผลซื้อหุ้นคืนอีก 5 ล้านหุ้นมูลค่ากว่า 10 ลบ.

EFORL ตั้งบ.ย่อย"ดับบลิวซีไอ โฮลดิ้ง" เข้าถือหุ้น"วุฒิศักดิ์”

IFEC ทุ่มงบ 273 ลบ. เข้าซื้อ"กรีนโกรท" เดินหน้าทำโรงไฟฟ้าพลังงานลม

BGH เดินหน้าจัดเต็ม! ตั้งบ.ย่อยใหม่ “กรุงเทพเซฟดรัก” ทุน 450ลบ.

PTTGC ตั้ง “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” เป็นซีอีโอ มีผล 1 ต.ค.นี้

“พรนที สมพงษ์ชัยกุล” เข้าซื้อ GEL ถือเกิน 7%

CYBER เนื้อหอม นักลงทุนไล่เก็บเข้าพอร์ต

HEMRAJ ร่วมทุน"กัลฟ์ โซล่าร์" ลุยธุรกิจโซลาร์รูฟท็อป

TNS (24/09/57).

     “ซื้อ” กลุ่มรับเหมาฯ อย่าง CK และ STEC  รวมไปถึง BTS: การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณในช่วงต้น มากกว่าช่วงท้าย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงงบลงทุน เป็นปัจจัย “บวก” ต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาฯ อย่าง CK และ STEC ยังแนะ“ซื้อ” ทั้ง CK และ STEC เป้าพื้นฐานที่ 31 และ 30 บ. ตามลำดับ

ในเชิง Momentum หุ้นทั้ง 2 ตัว รอทะลุยอดเดิมที่ 28.75 บ. (เป้าหมายถัดไปที่ 32.5 บ.) และ 27.25 บ. (ถัดไปที่ 28.5 และ 31.0 บ.) ตามลำดับ นอกจากนี้ BTS ยังเป็นอีกบริษัทที่ได้รับผลดีจากการลงทุนโครงการรถไฟฟ้า เนื่องจากมีโอกาสสูงที่จะเป็นผู้เข้าไปบริหารการเดินรถ ตามสัญญาณ O&M – Operation & Maintenance ในอนาคต โดยเราแนะนำ “ซื้อ” ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 11.5 บ.   

หุ้นพลังงานอ่วม-งบQ3แย่ขาดทุนสต็อก - สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

หุ้นพลังงานอ่วม-งบQ3แย่ขาดทุนสต็อก - สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

         

    หุ้นพลังงาน-ปิโตรเคมี อ่วม Q3/57 ส่อแววเจอปัญหาใหญ่ หลังราคาน้ำมันตลาดโลกร่วงหนัก ทำให้ขาดทุนสต็อกน้ำมันกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะในกลุ่มโรงกลั่นอย่าง TOP -IRPC และ BCP และธุรกิจ ปิโตรเลียมต้นน้ำอย่าง PTTEP พบน้ำมันดิบที่ลดทุก 1 เหรียญจะกระทบกับรายได้ไตรมาสที่ 3/57 ถึง 0.5% ขณะที่กลุ่มปิโตรฯ บางตัวอาจจะรับผลแค่เล็กน้อย เพราะพื้นฐานแกร่ง ส่วน PTT แม้ระยะสั้นยังไม่ดี แต่รับอานิสงส์ค่าใช้จ่ายกองทุนน้ำมันลดลง แบ่งเบาภาระในระยะยาว พร้อมจับตากลุ่ม OPEC เดินหน้าแก้ปัญหาอุปทานล้นตลาด 

***KGI คาดกลุ่มโรงกลั่นขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน

*** ฉุดกำไร Q3/57 กลุ่มพลังงานอ่อนแอ 

*** กระทบกลุ่ม ปิโตรฯเล็กน้อย เพราะพื้นฐานยังดี 

*** TOP ไตรมาส 3 อ่วมทั้งขาดทุนสต็อกน้ำมัน - ค่าการกลั่นอ่อนตัว

*** PTT โชคดีรายจ่ายกองทุนน้ำมันลดลง 

*** จับตากลุ่ม OPEC จัดการอุปทานล้นตลาด

Market Outlook 18 ก.ย.57

Market Outlook 18 ก.ย.57

พิชัย เลิศสุพงศ์กิจ, TNS

-เฟดไม่ได้ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย แม้ปรับขึ้นคาดการณ์อต.ดบ.เฟดปลายปี 58 เป็น 1.375% จากเดิม 1.125% แต่เฟดยืนยันจะตรึงดบ.ไว้ที่ระดับต่ำต่อไป “เป็นระยะเวลานาน” หลังยุติ QE, ปธ.เฟดยังเสริมว่า เงินเฟ้อยังต่ำกว่าเป้า 2% และตลาดแรงงานยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่

-ปฎิกิริยาตอบสนองต่อผลประชุมเฟด: ดาวโจนส์+0.15%, ราคาบอนด์สหรัฐรุ่น 10 ปีถอย ดันยีล+2.37bps ปิดที่ 2.62%, ดอลลาร์แข็งขึ้นอีก 0.1% เมื่อเทียบกับตระกร้าเงินสกุลหลัก, ทองคำเช้านี้ร่วงมาเคลื่อนไหวแถว 1223$/ออนซ์, ตลาดหุ้นเอเชียเปิดแกว่งแคบๆ   

กนง.มีมติเอกฉันท์ คงอต.ดบ.ไว้ที่ 2% ตามคาด

SET วันนี้จะแกว่งออกด้านข้าง กรอบ 1563-1577 จุด ทิศทางเดียวกับตลาดเอเชีย วันนี้จับตา ECB จะอัดฉีดเงินผ่านโปรแกรม TLTROs เพื่อกระตุ้นให้ธพ.ยุโรปปล่อยสินเชื่อมากขึ้น

พอร์ตหลักยังแนะใช้จังหวะตลาดย่อ “ซื้อ” AOT, BBL, BTS, BEAUTY, CK, KBANK, KTB, SPALI, STEC, THCOM

ผันผวน แนวรับ 1550 ต้าน 1575 หุ้นแนะนำ GUNKUL

WIKIJ /BLS

หัวข้อเรื่อง: ผันผวน แนวรับ 1550 ต้าน 1575 หุ้นแนะนำ GUNKUL 

Short term; cautious optimism                                                          

วันนี้คาด ผันผวน แนวรับ 1,550 ต้าน 1,575 จุด 

สัปดาห์นี้คาดดัชนีฯผันผวน วิตกเฟด เข้มงวดนโยบายการเงิน, การลงมติแยกสก็อตแลนด์ กดดันค่าเงินปอนด์ ทั้งหมด หนุนดอลล์สหรัฐฯแข็งค่าเทียบสกุลหลัก (เป็นลบต่อหุ้น และ สินทรัพย์เสี่ยง), MS คาด MSCI Thailand มี Downside ราว 8.4% (เราคาดแนวรับหลัก 1,517/1,530 จุด) ปัจจัยบวก จีนอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจราว 5 แสนล้านหยวน (standing lending facility (SLF)) เทียบเท่ากับการลด RRR 0.5%    

กลยุทธ์เล่นรอบระยะเดือน (กย.) เราได้แนะขึ้น

ทยอยขายล็อกกำไร โดยคาดหุ้นใหญ่ที่จะตกเป็นเป้าหมายในการถูกขายล็อกกำไรได้แก่ ขนส่ง ค้าปลีก อาหาร Utilities (ไฟฟ้า ประปา ทางด่วน รถไฟฟ้า) โรงพยาบาล พิจารณาจาก PE forward I/B/E/S อยู่บนโซน+2SD) แนะไปรอซื้อคืนเมื่อปรับฐาน ให้น้ำหนักดัชนีฯไม่หลุดแนวรับ 1,500+/- จุด (ดูตาราง กลุ่มที่นำลง นับจาก Peak เดือนนี้ โรงพยาบาล -6.7% ค้าปลีก -4.95% แบงก์ -4.48% แนะยังไม่ต้องรีบซื้อคืน กลุ่มเสี่ยงลงเพิ่ม คาดได้แก่ บ้าน อาหาร ชิ้นส่วนฯ)

หุ้นแนะนำ GUNKUL (แถลงแผนธุรกิจพรุ่งนี้ คาดมีแนวโน้มจับมือบริษัทฯอื่นทำ Solar roof โมเดลเดียวกับ ECF)    

BLS รายงานพื้นฐานวันนี้ (ดูรายละเอียดฉบับเต็ม)

(+) TUF เราปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 88.5 บาท คงคำแนะนำซื้อ TUF ซื้อกิจการ King Oscar ธุรกิจอาหารทะเลของนอร์เวย เป็นบริษัทฯที่มียอดขาย 2.7 พันล้านบาทในปี 2013 โดยซื้อที่ PE ราว 6-7 เท่า (ไม่แพง) และเราปรับกำไร 2015 ขึ้นราว 2.9% (กำไรปี 2015-16 ขึ้นเป็น 6.48 และ 6.87 พันล้านบาทตามลำดับ) และปรับราคาเป้าหมายขึ้น 3% โดยคาด TUF จะใช้แหล่งเงินกู้ในการซื้อกิจการ และไม่กระทบ DE (ยังคงต่ำกว่า 1 เท่า)          

หุ้นมีข่าว  

(+) รัฐบาลเร่งลงทุนระบบอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงทั่วประเทศ รองรับเศรษฐกิจดิจิตอล / หุ้นเชื่อมโยง ILINK (ขายสายเคเบิล และทำ Fiber optic เชื่อมอินเตอร์เน็ต) 

(-) BTS มีแนวโน้ม ไม่ได้งาน Subway ในจีน

(+) SST คาดมีดีลซื้อกิจการเพิ่ม

(-) 18 กย. กสท. ตัดสิน BEC ออกอากาศคู่ขนาน หรือปล่อยจอดับ (เราคงแนะนำ ขาย คาดค่าโฆษณามีแนวโน้มลดลง)

(+) EGCO กลางเดือน กย.คาดมีความคืบหน้าเรื่องการตรวจสอบโครงการ IPP 5000 MW (หรือ IPP รอบ 3) ด้านสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจกฟผ. ยื่น รมว.พลังงาน ให้ประมูล IPP#3 ใหม่ หากมีการประมูลใหม่คาด เป็นบวกต่อ EGCO    

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด  

(0) ครม.ผ่านร่าง กม.ลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และนิติบุคคล เรามอง Neutral ต่อตลาด 

1) ภาษีบุคคลธรรมดาเป็นมาตรการที่ตลาดรับรู้อยู่แล้ว (รัฐเคยประกาศการทยอยปรับลดภาษีให้ใกล้เคียงกับ AEC) 

2) ภาษี บจ. เราใส่ไว้ในประมาณการอยู่แล้วที่ 20% ดังนั้นไม่มีผล

(+/0) จีนออกมาตรการอัดฉีดเงิน 5 แสนล้านหยวน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการปล่อยสภาพคล่องระยะสั้น 2 วัน ให้สถาบันการเงิน MS มอง Neutral ต่อตลาด (คาดไว้อยู่แล้ว) / เรามองภาพระยะสั้น หุ้นเชื่อมโยงสินค้าโภคภัณฑ์ PSL TTA BANPU PTTGC IVL อาจขึ้นได้ไม่ไกลจากข่าวนี้ แต่ ระยะกลางคาดมีโอกาส Outperform ตลาด เพราะมองว่าจีน มีโอกาสจะดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเพิ่มขึ้น 

(+) เมื่อวาน US PPI (Core) สค. +0.1% ตามคาด (ลงจาก +0.2%) เงินเฟ้อและการผลิตสหรัฐฯที่ชะลอลง คาดลดความวิตกเฟด เข้มงวดนโยบายเร็ว 

(+) วันนี้ เงินเฟ้อ US CPI (สค.) คาด 0% จาก 0.1%    

(+) พุธ ประชุมเฟด ครั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาด เฟดยังไม่เปิดเผยมาตรการรองรับการเข้มงวดนโยบายการเงิน

หลังสิ้นสุด QE (เชื่อว่าการประชุมครั้งนี้ เฟดจะไม่เน้นเรื่อง

ระยะเวลา และมาตรการใดๆ) อย่างไรก็ตามเราคาดว่าผลกระทบจาก Forward guidance ในการประชุมรอบ ตค.-ธค. จะมีผลจำกัดต่อการปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติ เพราะเชื่อว่าปลายปีก่อนขายไปเยอะแล้ว เมื่อตอนที่เฟดบอกระยะเวลาสิ้นสุด QE

(-) นักค้าเงินคาดการลงมติ Scottish referendum (แยกออกจากสหราชอาณาจักร) ปลายสัปดาห์นี้ ส่งผลให้เงินปอนด์อ่อนค่า (ดอลลาร์แข็งค่า เทียบสกุลเงินหลัก) 

(+/-) วันพุธ คาด กนง.คงดอกเบี้ยที่ 2% และมาเลเซีย คาดคงดอกเบี้ย 3.25% แต่มีโอกาสจะขึ้นดอกเบี้ย หลังเงินเฟ้อ (สค.) ยังทรงตัวที่ 3.2%

Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ Sideway with Downside Risk ในกรอบแนวต้าน 1590/1594 จุด

Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ Sideway with Downside Risk ในกรอบแนวต้าน 1590/1594 จุด และแนวรับ 1567/1563 จุด การแกว่งขึ้นบริเวณเหนือกรอบ 2014 Forward PER 16 เท่าหรือบริเวณ 1600 จุด ยังคงเป็นจุดที่ผ่านได้ยาก หากตลาดขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ๆ เนื่องจากบริเวณนี้ถือว่าเป็นจุดที่ Valuation ค่อนข้างสูงมากเมื่อเทียบกับสถิติในอดีต นอกจากนี้ CNS เริ่มเห็นสัญญาณการสะสม Short Position ของนักลงทุนต่างชาติในปริมาณที่มากขึ้น โดย 5 ใน 6 วันทำการล่าสุด ต่างชาติมีการเปิดสถานะ Short รวมกว่า 11695 สัญญา จึงเป็นจุดที่แนะเพิ่มความระมัดระวังเพิ่มขึ้น ส่วนปัจจัยในประเทศที่น่าติดตามวันนี้ แนะจับตา ถ้อยแถลงของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในส่วนของการแถลงแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช) โดยมีประเด็นเด่นๆ คือ คาดจะมีการยกเลิกกฎอัยการศึกบางส่วนวันนี้ บวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว ขณะที่การปฎิรูปภาษี มีปัจจัยบวกจากการเตรียมเก็บภาษีมรดก-ที่ดิน หนุนรายได้ภาษีเพิ่ม แต่อาจมีการไม่ต่ออายุลดหย่อน LTF หลังสิ้นสุดปี 2559 หลังประเด็นดังกล่าวอาจมีการประเมินว่าเอื้อประโยชน์ต่อผู้มีรายได้สูงมากกว่า ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะเป็น Sentiment เชิงลบระยะสั้น(แม้จะคง RMF ตามเดิมตาม) จากปัจจัยในระยะสั้นที่ค่อนข้างผันผวน จึงต้องระมัดระวัง โดยประเมินกรอบแนวรับสำคัญบริเวณ 1570/1550 จุด

 

Short-Term Strategy : กระชับพอร์ต รอย่อสะสม โดยกรอบ 1570-1550 จุด เป็นระดับที่น่าสนในในการตั้งรับหุ้น โดยเน้น Selective Buy  1) หุ้นที่เป็นเป้า Trigger Fund กองใหม่ (QH, CK ITD STPI KTB, KBANK) 2) Laggard Play และมี Fund Flow หนุน (ADVANC INTUCH THCOM) 3) เก็งยกเลิกอัยการศึก (ERW MINT AAV) 4) cotton ฟื้นต่อเนื่อง (IVL) รวมถึงหุ้น Top Picks ประจำเดือน กย 20014 นำโดย GUNKUL, QH, BLAND, TTA, ERW, STPI รอย่อสะสม ผสานกับ Weekly Top Picks (TTA BLAND SOLAR) โดยแนะนำ êDaily Top Picks QH BLANDê เด่นที่สุดในวันนี้

 

Mid-Long Term Strategy : ผู้ที่มองข้ามความผันผวนสั้นเป็นนักลงทุนระยะกลาง-ยาวอย่างแท้จริง สามารถถือหุ้น 70% เพื่อรอเป้าหมายใหญ่ที่ 1684จุด(ดัชนีเป้าหมายปี 2015F) ได้ ส่วนผู้ที่เน้นรอบหลังจากได้กระชับพอร์ตไปแล้วลดน้ำหนักไป 10-15% ให้ทยอยสะสมหุ้นกลับสู่ 70% อีกครั้งในกรอบ 1550-1570จุด โดยเดือนนี้แนะนำเลี่ยงกลุ่ม ENERG(PTT, PTTEP, BANPU) คาดราคาจะ Underperform ในระยะสั้น และเน้นกลุ่ม Seasonal ท่องเที่ยว(MINT, ERW) เรือ(TTA) โรงพยาบาล(BGH, BCH) เด่น ผสานหุ้น Domestic กลุ่ม BANK(KBANK, KTB) & CONMAT(SCC) & ICT(THCOM, SAMART) จะสลับนำตลาดขึ้น ตามมาด้วยกลุ่มรับเหมา (CK, STEC, STPI), อสังหาฯ (SPALI, QH), นิคมฯ (AMATA, HEMRAJ) และค้าปลีก(CPALL, HMPRO) หุ้นที่ได้รับอานิสงค์ Global Recovery (IVL, TTA) โดย โดยแนะนำ Portfolio Top picks SEP 14 (GUNKUL, QH, BLAND, TTA, ERW, STPI) and Dark Horse (CKP, SOLAR, BTS, BLA, CPALL, HMPRO)

 

Fundamental & Tactical Daily Top Picks :

ê QH (TP5.0*) : Support 4.16/4.1 Resistant 4.28/4.38

Top Picks PROP ปี15 / คาดกำไร FY15F +23%y-y สูงเป็นที่2ในกลุ่ม/Brand แข็ง รุกตลาด mass คาด 2ปี ขึ้นเบอร์2ทาวน์โฮม/โครงการ2H14F เชิงรุก (64%ของทั้งปี)

ê BLAND (TP2.56) : Support 2.08/2.02 Resistant 2.2/2.28

เข้าสู่ช่วงซื้อหุ้นคืน 25 สค 14 - 24กย 15(ซื้อคืนวงเงิน 3 พันล้านบาท ราว 1.2พันล้านหุ้น) / ความคืบหน้าต่อการจัดตั้ง REIT หนุนฐานะการเงินแกร่ง / การ Revalue Asset เพิ่ม sentiment เชิงบวกต่อ Valuation น่าดึงดูดขึ้น

 

Asset allocation : หุ้น 70% ทองคำ 5% ตลาดบอนด์ 15% และเงินสด 10%

Investment Theme :  +China Play : IVL, TTA, PTTGC

+Domestic Restoration(2H14): KTB, KKP, SPALI, QH, AMATA, HEMRAJ, ERW, MINT, HMPRO, CPALL, STEC, TTCL

คัดหุ้นเด่น เน้นลงทุน

คัดหุ้นเด่น เน้นลงทุน

บริษัทที่มีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย

1. กลุ่มเกษตร

GFPT ยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน เติบโตทั้งไตรมาส 1/57 และ ไตรมาส 2/57 กำไรสุทธิเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน ไตรมาส 1/57 เติบโต 199.66 % YoY และไตรมาส 2/57 เติบโต 59.31 % YoY และ 13.43 % QoQ โดยครึ่งปีเติบโต 103.45 % แสดงให้เห็นความแข็งแกร่งของยอดขายและกำไรสุทธิ บริษัทมีกำไรต่อหุ้นครึ่งปี 2557 เท่ากับ 0.72 บาทต่อหุ้น (ไตรมาส 1/57 ได้ 0.34 บาทต่อหุ้น ไตรมาส 2/57 ได้ 0.38 บาทต่อหุ้น) ถ้าลงทุนด้วย P/E ระหว่าง 10 – 15 เท่า ราคาเป้าหมายคือ 15 – 23 บาท มูลค่าทางบัญชี 6.15 บาท ดังนั้นถ้าเล่น 2 – 3 เท่าของมูลค่าทางบัญชี ราคาเหมาะสมคือ 12 – 18 บาท

กลยุทธ : ซื้อเล่นรอบรอขาย 18 บาท

2. กลุ่มธนาคาร

SCB มีการปล่อยสินเชื่อเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน กำไรเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบัน กำไรต่อหุ้นปี 56 ที่ 14.78 บาทต่อหุ้น ไตรมาส 1/57 ได้ 3.86 บาทต่อหุ้น และไตรมาส 2/57 ได้ 4.33 บาทต่อหุ้น รวมครึ่งปีได้ 8.19 บาทต่อหุ้น ถ้าลงทุนด้วย P/E ระหว่าง 10 – 16 เท่า ราคาเป้าหมายหมายคือ 160 – 240 บาท มูลค่าทางบัญชี 76 บาท ดังนั้นถ้าเล่น 2 – 3 เท่าของมูลค่าทางบัญชี ราคาเหมาะสมคือ 152 – 228 บาท

กลยุทธ : ซื้อ เพื่อขาย 230 บาท

3. กลุ่มพาณิชย์

HMPRO ยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบัน กำไรสุทธิเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบัน กำไรสุทธิต่อหุ้นปี 2556 ที่ 0.28 บาทต่อหุ้น ไตรมาส 1/57 ได้ 0.07 บาทต่อหุ้น ไตรมาส 2/57 ได้ 0.07 บาทต่อหุ้น ครึ่งปี 57 ได้ 0.14 บาทต่อหุ้น ถ้าลงทุนด้วย P/E ระหว่าง 30 – 40 เท่า ราคาเป้าหมายคือ 9 – 12 บาท

กลยุทธ : ซื้อ และ ขายที่ราคามากกว่า 12 บาท

MAKRO ยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบัน กำไรสุทธิเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบัน แต่การเติบโตไตรมาส 2/57 ไม่ต่อเนื่องจากไตรมาส 1/57 กำไรสุทธิต่อหุ้นปี 2556 ที่ 0.89 บาทต่อหุ้น ไตรมาส 1/57 ได้ 0.26 บาทต่อหุ้น ไตรมาส 2/57 ได้ 0.22 บาทต่อหุ้น ครึ่งปี 57 ได้ 0.48 บาทต่อหุ้น ถ้าลงทุนด้วย P/E ระหว่าง 35 – 45 เท่า ราคาเป้าหมายคือ 33 – 43 บาท

กลยุทธ : ซื้อเล่นรอบรอขาย 43 บาท

4. กลุ่มชิ้นส่วนอีเลคทรอนิค

DELTA ยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบัน กำไรสุทธิเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน กำไรสุทธิต่อหุ้นปี 2556 ที่ 4.34 บาทต่อหุ้น ไตรมาส 1/57 ได้ 1.12 บาทต่อหุ้น ไตรมาส 2/57 ได้ 1.20 บาทต่อหุ้น ครึ่งปี 57 ได้ 2.32 บาทต่อหุ้น ถ้าลงทุนด้วย P/E ระหว่าง 12 – 16 เท่า ราคาเป้าหมายคือ 55 – 73 บาท มูลค่าทางบัญชี 19.93 บาท ดังนั้นถ้าเล่น 2 – 3 เท่าของมูลค่าทางบัญชี ราคาเหมาะสมคือ 40 – 60 บาท

กลยุทธ : ซื้อต่ำกว่า 60 บาท

5. กลุ่มสื่อสาร

AIT ยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน กำไรสุทธิเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน กำไรสุทธิต่อหุ้นปี 2556 ที่ 2.75 บาทต่อหุ้น ไตรมาส 1/57 ได้ 0.97 บาทต่อหุ้น ไตรมาส 2/57 ได้ 1.38 บาทต่อหุ้น ครึ่งปี 57 ได้ 2.35 บาทต่อหุ้น ถ้าลงทุนด้วย P/E ระหว่าง 8 – 13 เท่า ราคาเป้าหมายคือ 29 – 47 บาท มูลค่าทางบัญชี 12.62 บาท ดังนั้นถ้าเล่น 2 – 3 เท่าของมูลค่าทางบัญชี ราคาเหมาะสมคือ 25 – 37 บาท

กลยุทธ : ซื้อที่ 30 บาท และขาย 37 บาทขึ้นไป

THCOM ยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน กำไรสุทธิเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน บริษัทมีกำไรสุทธิต่อหุ้นปี 2556 ที่ 1.03 บาทต่อหุ้น ไตรมาส 1/57 ได้ 0.36 บาทต่อหุ้น ไตรมาส 2/57 ได้ 0.45 บาทต่อหุ้น ครึ่งปี 57 ได้ 0.81 บาทต่อหุ้น ถ้าลงทุนด้วย P/E ระหว่าง 30 – 35 เท่า ราคาเป้าหมายคือ 41 – 55 บาท มูลค่าทางบัญชี 14.05 บาท ดังนั้น ถ้าเล่น 2 – 3 เท่าของมูลค่าทางบัญชี ราคาเหมาะสมคือ 28 – 52 บาท

กลยุทธ : ซื้อ เพื่อขาย 50 บาท

6. กลุ่มพลังงาน

SPCG ยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน กำไรสุทธิเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน กำไรสุทธิต่อหุ้นปี 2556 ที่ 0.76 บาทต่อหุ้น ไตรมาส 1/57 ได้ 0.32 บาทต่อหุ้น ไตรมาส 2/57 ได้ 0.46 บาทต่อหุ้น ครึ่งปี 57 ได้ 0.78 บาทต่อหุ้น ถ้าลงทุนด้วย P/E ระหว่าง 20 – 35 เท่า ราคาเป้าหมายคือ 24 – 41 บาท มูลค่าทางบัญชี 14.05 บาท ดังนั้นถ้าเล่น 2 – 3 เท่าของมูลค่าทางบัญชี ราคาเหมาะสมคือ 28 – 52 บาท

กลยุทธ : ซื้อ เพื่อลงทุน เพราะคาดว่ากำไรปี 2557 ( 1.40 บาทต่อหุ้น )

CKP ยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน แต่การเติบโตไตรมาส 2/57 ไม่ต่อเนื่องจากไตรมาส 1/57 กำไรสุทธิเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน แต่การเติบโตไตรมาส 2/57 ไม่ต่อเนื่องจากไตรมาส 1/57 กำไรสุทธิต่อหุ้นปี 2556 ที่ 0.22 บาทต่อหุ้น ไตรมาส 1/57 ได้ 0.11 บาทต่อหุ้น ไตรมาส 2/57 ได้ 0.03 บาทต่อหุ้น ครึ่งปี 57 ได้ 0.14 บาทต่อหุ้น ถ้าลงทุนด้วยมูลค่าทางบัญชี 10.67 บาท ดังนั้นถ้าเล่น 2 – 3 เท่าของมูลค่าทางบัญชี ราคาเหมาะสมคือ 20 – 30 บาท

กลยุทธ : ซื้อลงทุน

7. กลุ่มโรงพยาบาล

VIH ยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน กำไรสุทธิเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน กำไรสุทธิต่อหุ้นปี 2556 ที่ 0.11 บาทต่อหุ้น ไตรมาส 1/57 ได้ 0.05 บาทต่อหุ้น ไตรมาส 2/57 ได้ 0.06 บาทต่อหุ้น ครึ่งปี 57 ได้ 0.11 บาทต่อหุ้น ถ้าลงทุนด้วย P/E ระหว่าง 30 – 40 เท่า ราคาเป้าหมายคือ 6 – 9 บาท

กลยุทธ : ซืื้อลงทุน