ดาวโจนส์ - 106.47 จุด / 18,096.90
น้ำมัน + 1.01 ดอลลาร์ / 51.53
ทองคำ - 3.50 ดอลลาร์ / 1,200.90
น้ำมันสัญญาสหรัฐฯขึ้นแม้สต๊อกสูงลิ่ว หุ้นมะกัน-ทองคำลง
เอเอฟพี/วอลล์สตรีทเจอร์นัล - ราคาน้ำมันสหรัฐฯเมื่อวันพุธ(4มี.ค.) ขยับขึ้น แม้พบคลังเชื้อเพลิงสำรองเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดตลอดกาล ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบ 2 วันติดและทองคำลงเล็กน้อย นักลงทุนเฝ้ารอข้อมูลตลาดแรงงานอันสำคัญของอเมริกา
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 1.01 ดอลลาร์ ปิดที่ 51.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 47 เซนต์ ปิดที่ 60.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กระทรวงพลังงานสหรัฐฯเผยแพร่รายงานเมื่อวันพุธ(4มี.ค.) พบว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 27 กุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้นถึง 10.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายเกือบ 3 เท่า และทุยสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 5 สัปดาห์ติด
อย่างไรก็ตามคลังน้ำมันสำรองที่เมืองคุชชิง โอคลาโฮมา จุดส่งมองน้ำมันดิบของเวสต์เทกซัส พบว่าสต๊อกเพิ่มขึ้นเพียง 500,000 บาร์เรล เป็นไปตามที่คาดหมายไว้
นอกจากนี้แล้วราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากวิกฤตในลีเบีย โดยเมื่อวันพุธ(4มี.ค.) บริษัทน้ำมันแห่งชาติ (National Oil Corp) ของลิเบียประกาศเหตุสุดวิสัย ณ บ่อน้ำมัน 11 แห่ง หลังถูกโจมตีโดยพวกอิสลามิสต์หัวรุนแรง มาตรการทางกฎหมายที่ปกป้องบ่อน้ำมันจากการต้องรับผิดชอบกรณีไม่สามารถส่งมอบน้ำมันได้ครบตามสัญญาซื้อขาย ด้วยเหตุที่อยู่นอกเหนือการควบคุม
การสู้รบในชาติอเมริกาเหนือแห่งนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกโอเปก ส่งผลให้กำลังผลิตของประเทศลดลงจากที่เคยผลิตได้สูงสุดเกือบ 1.5 ล้านบาร์เรล เหลือแค่ 150,000 บาร์เรลต่อวันเท่านั้น
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันพุธ(4มี.ค.) ขยับลงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน หลัง แนสแดค ทะยานสู่ระดับสูงสุดในรอบ 15 ปีก่อนหน้านี้ จากข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ต้องระมัดระวัง ขณะที่นักลงทุนก็จับตาตัวเลขภาคแรงงานที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันศุกร์(6มี.ค.)
ดาวโจนส์ ลดลง 106.47 จุด (0.58 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,096.90 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 9.25 จุด (0.44 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,098.53 จุด แนสแดค ลดลง 12.76 จุด (0.26 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,967.14 จุด
ท่ามกลางข้อมูลที่ไม่สดใสนักในด้านการจ้างงานภาคธุรกิจเอกชนและการขยายตัวของภาคบริการ เช่นเดียวกับสัญญาณเตือนให้นักลงทุนต้องระมัดระวังจาก Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจจากเฟดทั้ง 12 สาขาในสหรัฐฯ เวลานี้ทุกสายตาจับจ้องไปที่ตัวตลาดแรงงานอย่างเป็นทางการประจำเดือนกุมภาพันธ์ที่จะเผยแพร่ในช่วงปลายสัปดาห์
ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ราคาทองคำเมื่อวันพุธ(4มี.ค.) ขยับลงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนเฝ้ารอสิ่งบ่งชี้ถึงทิศทางเศรษฐกิจของอเมริกา
โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 3.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,200.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น