(Umbrella) Good Morning News 5 มีนาคม 2558
Guru Quotes
Howard Marks - บ่อยครั้งการตัดสินใจที่ดีอาจไม่ได้ให้ผลลัพธ์ตามที่หวัง แต่การตัดสินใจที่ไม่ดีกลับประสบความสำเร็จ ซึ่งเกิดขึ้นได้กับนักลงทุนที่ต้องพบเจอกับความเสี่ยงและปัจจัยที่ไม่แน่นอนต่างๆมากมาย แต่อย่าให้ปัจจัยดังกล่าวมาสั่นคลอนความเชื่อมั่นต่อกระบวนการตัดสินใจที่ดีซึ่งผ่านการคิดทบทวนอย่างถี่ถ้วนและรอบด้าน และขอให้ยึดมั่นในการตัดสินใจนั้น
General News
• Bill Gross คาดว่า FED จะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ในเดือน มิ.ย. 2558 เนื่องจากต้นทุนการกู้ยืมที่ต่ำใกล้ศูนย์อาจก่อให้เกิดภาวะฟองสบู่ได้ ขณะที่ David Rosenberg เชื่อว่า FED จะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจนถึงปี 2559 เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังไม่ถึง 2% ตามเป้าหมาย
• อัตราว่างงานในเขตยูโรโซนเดือนม.ค. 2558 ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เม.ย. 2555 ที่ 11.2% และอัตราว่างงานของประเทศในกลุ่ม EU ลดลงมาอยู่ที่ 9.8% จาก 9.9% ในเดือน ธ.ค. 2557 โดยประเทศที่อัตราว่างงานลดลงมากที่สุดคือ สเปน เอสโทเนีย และไอร์แลนด์
• ธนาคารกลางยูเครนเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงมาอยู่ที่ 30% เพื่อแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อและการอ่อนค่าของสกุลเงิน hryvnia โดยถือเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงที่สุดในรอบ 15 ปี นอกจากนี้ธนาคารกลางยูเครนยังขยายเวลาที่กำหนดให้บริษัทต่างๆ ต้องขายสกุลเงินต่างประเทศที่เป็นรายได้ของบริษัทจำนวน 75% อีกด้วย
• ธนาคารกลางออสเตรเลียคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตาม นายเกลนน์ สตีเวนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียระบุว่าการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มอาจจะมีความเหมาะสมในอนาคต เพื่อกระตุ้นอุปสงค์ให้เติบโตอย่างยั่งยืน และช่วยให้เงินเฟ้อสอดคล้องกับเป้าหมาย
• เกาหลีใต้อาจเข้าสู่ภาวะเงินฝืด เนื่องจากเศรษฐกิจชะงักงันและอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเกาหลีใต้เดือนก.พ.อยู่ที่ 0.5% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นสถิติต่ำสุดในรอบ 16 ปี เนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมลดลงถึง 24.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเพราะราคาน้ำมันดิบที่ถูกลง
• ธนาคารกลางอินเดียปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25%เพื่อกระตุ้นการผลิตและการปล่อยสินเชื่อ โดยอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมาอยู่ที่ 7.5% และดอกเบี้ยพันธบัตรมีสัญญาขายคืน (reverse repo) ลดเหลือ 6.5% การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของธนาคารต่อการควบคุมอัตราเงินเฟ้อของรัฐบาล
• ABN AMRO ระบุว่า การดิ่งลงของราคาน้ำมันจะส่งผลดีต่อประเทศในเอเชียที่ต้องนำเข้าน้ำมัน โดยหนุนการขยายตัวในไทย อินเดีย ฮ่องกง และสิงคโปร์ แต่อาจไม่ได้ช่วยลดการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนมากเท่าไหร่
• ครม. มีมติเห็นชอบให้กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ทำหน้าที่เป็นช่องทางการออมเพื่อเป็นหลักประกันยามเกษียณสำหรับแรงงานนอกระบบ ได้แก่ พ่อค้าแม่ค้าหาบเร่แผงลอยที่ไม่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยจะให้ผลตอบแทนไม่น้อยกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน นอกจากนี้ยังเห็นชอบโครงการตามแผนพัฒนาระบบขนส่งทางถนนระยะเร่งด่วน มูลค่า 4 หมื่นล้านบาท โดยจะพัฒนาปรับปรุงทางหลวงให้เชื่อมโยงกับพื้นที่ทางการเกษตร เขตท่องเที่ยว รวมทั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดน
• ไทยชนะการประมูลขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ให้กับฟิลิปปินส์ ปริมาณ 2 แสนตัน จากการเปิดประมูลทั้งหมด 5 แสนตัน ทำให้ไทยสามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดข้าวในฟิลิปปินส์ได้ นอกจากนี้การระบายข้าวทั้งข้าวฤดูกาลผลิตใหม่และข้าวในสต็อกของรัฐมีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากมีหลายประเทศสนใจที่จะสั่งซื้อข้าวไทยทั้งการขายโดยภาครัฐและเอกชน
• สำนักงานสถิติ รายงานว่า ในเดือนม.ค.ผู้ว่างงานทั่วประเทศมีจำนวน 4.04 แสนคน คิดเป็น 1.1% ของกำลังแรงงาน เพิ่มขึ้น 4.3 หมื่นคนจาก ม.ค. 2557 โดยประมาณ 36% ของผู้ว่างงานสำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษา ทั้งนี้ ภาคที่จ้างงานลดลงอย่างมากคือ เกษตรกรรม การขายและซ่อมแซมรถจักรยานยนต์
• ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ปรับลดประมาณการตัวเลขส่งออกของประเทศในปี 2558 เหลือ 2-2.5% เนื่องจากความผันผวนทางเศรษฐกิจและค่าเงิน นอกจากนี้ยังแสดงความกังวลต่อความล่าช้าในการเบิกจ่ายงบประมาณที่ทำให้เงินเข้าสู่ระบบน้อยลงและทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว (กกร.ประกอบด้วยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย)
Equity Market
สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม
กลุ่มนักลงทุน ล้านบาท
นักลงทุนสถาบัน -338.58
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ -1,718.62
นักลงทุนต่างชาติ +1,856.27
นักลงทุนทั่วไป +200.93
• SET Index ปิดที่ 1,562.84 จุด ลดลง 19.30 จุด (-1.22%) มูลค่าการซื้อขาย 60,890.97 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากขาดปัจจัยกระตุ้น และยังขาดแคลนเม็ดเงินลงทุนเข้ามาจากต่างชาติ โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียยังเคลื่อนไหวคละกันทั้งในแดนบวกและลบ
Fixed Income Market
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงอยู่ในช่วงระหว่าง -0.03% ถึง +0.04% ในทุกช่วงอายุตราสาร ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 75,910.64 ล้านบาท สำหรับวันนี้ไม่มีการประมูล
ที่มา กองทุนบัวหลวง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น