หน้าเว็บ

ข่าวทันหุ้นวันนี้

วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2558

สรุปประเด็นสำคัญจากงานสัมนา 360 องศา Global Investment Outlook

สรุปประเด็นสำคัญจากงานสัมนา 360 องศา Global Investment Outlook

US  
ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ - ทั้งดร.เอกนิติและคุณประภาส มีมุมมองเดียวกันว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการฟื้นตัวขึ้นอย่างโดดเด่น แต่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะยังไม่รีบร้อนขึ้นดอกเบี้ย ถึงแม้ว่าตัวเลขการจ้างงานจะดีขึ้นมาก เพราะยังมีปัจจัยสำคัญที่ยังต้องจับตาคือตัวเลขเงินเฟ้อที่ยังต่ำ หนี้สาธารณะที่ยังต้องรอดูการเจรจากันระหว่างพรรค Republican และ Democrat และเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นมากอาจจะมีผลกระทบต่อภาคการส่งออก แต่อย่างไรก็ตาม ตลาดทุนจะให้ความสำคัญกับถ้อยแถลงการประชุมของ FED ในแต่ละรอบมากขึ้น
ปัจจัยด้านการลงทุน - หากสหรัฐมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อาจจะมีผลกระทบต่อการไหลของเม็ดเงินออกจากประเทศที่มีค่าเงินแนวโน้มอ่อนค่าลง และ carry yield ไม่ได้สูงมาก เพราะเงินจะไหลกลับไปในตราสารหนี้ระยะสั้นของสหรัฐ ส่วนตลาดหุ้นคุณประภาสยังมองว่ายังโตได้แต่ EPS Growth ในปีนี้มีไม่มากนัก ซึ่งน่าจะอยู่ประมาณ 5%

Euro Zone
ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ - ดร.เอกนิติมีมุมมองว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะฟื้นตัวได้ดีกว่าปีก่อน สาเหตุหลักเลยจากการทำ QE ของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งทำให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่า และเศรษฐกิจของเยอรมันจะโตดีที่สุดในยุโรป และหนุนให้ทั้งยูโรโซนฟื้นตัวได้เพราะเยอรมันมีขนาดเศรษฐกิจประมาณ 1/4 ของทั้งยูโรโซน ความเสี่ยงเรื่องกรีซจะออกจากยูโรโซนน่าจะมีน้อย เพราะดร.ยังเชื่อว่าทั้งกรีซและยูโรเองยังต้องพึ่งพากันและกัน แต่อย่างไรก็ตามดร.คิดว่าทางการยูโรอาจจะเริ่มมีการเตรียมแผนสำรองไว้แล้วเช่นเดียวกันในกรณีที่รัฐบาลกรีซเรียกร้องเงื่อนไขที่มากเกินไป
ปัจจัยด้านการลงทุน - คุณประภาสเชื่อว่าค่าเงินยูโรจะยังมีแนวโน้มอ่อนค่าในระยะกลางถึงยาว และมาตรการ QE ยังคงมีเพราะฉะนั้นแล้วก็เป็นเหมือนเครื่องการันตีว่าตลาดหุ้นยุโรปจะยังสามารถปรับตัวขึ้นได้อีกมาก คุณประภาสแนะนำว่าน่าจะเป็นตลาดหุ้นที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในปีนี้

China
ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ - ดร.เอกนิติยังเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจีนสามารถควบคุมการเติบโตของเศรษฐกิจไม่ให้เกิด Hard Landing ได้ และจะทำทุกวิธีเพื่อทำให้จีดีพีเติบโตได้ในระดับ 7% ในปีนี้ อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีจีนได้กล่าวศัพท์คำหนึ่งว่า "New Normal" เพื่อเป็นอีก 1 ช่องทางในการสื่อสารกับทั่วทั้งโลกว่าจีนกำลังอยู่ในช่วงปฏิรูปซึ่งต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 5-10 ปีต่อจากนี้ และในอนาคตจีนจะกลายเป็นประเทศที่พึ่งพาการบริโภคในประเทศเป็นหลัก เพื่อทำให้โตได้อย่างหยั่งยืน
ปัจจัยด้านการลงทุน - คุณประภาสเชื่อว่ารัฐบาลจีนน่าจะมีการประกาศลดทั้งอัตราดอกเบี้ยและ RRR (Reserve Requirement Ratio) ลงอีกเพื่อประคองเศรษฐกิจไม่ให้ต่ำจนเกินไป เพราะฉะนั้นตลาดหุ้นจีนก็ยังมี Upside ในการปรับตัวเพิ่มขึ้น

Japan
ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ - ดร.เอกนิติคาดว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะไม่ได้เติบโตขึ้นมาก ถึงแม้ว่าจะมีมาตรการ QQE เนื่องจากปัญหาเชิงโครงสร้างอายุประชากร เพราะฉะนั้นการบริโภคในประเทศจะไม่สามารถพึ่งพาได้มาก รัฐบาลญี่ปุ่นจึงต้องเน้นการส่งออกด้วยการกดค่าเงินเยนให้อ่อนค่าต่อเนื่อง และในระยะยาวญี่ปุ่นยังเข้าสู่ช่วงปฏิรูปเช่นเดียวกันกับจีนในมาตรการธนูดอกที่ 3 ของ Abenomics 
ปัจจัยด้านการลงทุน - ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเป็นอีก 1 ตลาดที่คุณประภาสชอบ สืบเนื่องจากค่าเงินเยนที่ยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่าทั้งระยะกลางและยาว การปฏิรูป Pension Fund ให้มาลงทุนตราสารทุนมากขึ้น และมาตรการลดภาษีนิติบุคคลที่ยังไม่ได้เริ่มใช้ และคาดการณ์ EPS Growth ในระดับที่เกิน 10% ทั้งปีนี้และในปีหน้าจากเงินเยนที่อ่อนค่า

Thai
ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ - ดร.เอกนิติยังคงมีความหวังกับการลงทุนของรัฐบาลซึ่งตัวเลขล่าสุด ณ วันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมามีการเบิกจ่ายงบประมาณได้ประมาณ 45% ของงบลงทุนรวม ซึ่งเมื่อรัฐบาลเริ่มลงทุนและเบิกจ่ายได้ก็จะกระตุ้นความเชื่อมั่นให้กลับมาได้ แต่ย้อมรับว่ายังมีความกังวลกับตัวเลขส่งออกซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 60% ของจีดีพี เพราะคู่ค้าสำคัญของไทยคือจีนมีการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจ ส่วนตัวเลขที่ขยับขึ้นได้ดียังคงเป็นตัวเลขภาคการท่องเที่ยว แต่ยังคงมีสัดส่วนน้อยประมาณ 10% ของจีดีพี
ปัจจัยด้านการลงทุน - คุณประภาสบอกว่าปีนี้จะไม่ใช่ปีที่ดีของตลาดหุ้นไทย เพราะปีที่แล้วหุ้นไทยให้ผลตอบแทนล่วงหน้าไปแล้วกว่า 16% ทั้งๆที่เศรษฐกิจโตได้เพียง 0.7% และเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยปีนี้จะขึ้น 6 เดือนและลง 6 เดือน และมีโอกาสที่ในเดือนเมษายนและพฤษภาคม ตลาดหุ้นจะปรับฐานอีก 100-200 จุดได้ แต่อย่างไรก็ตามคุณประภาสเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยปีนี้จะมี EPS Growth ประมาณ 25% ซึ่งถ้าหุ้นลงไปในช่วง 1,300-1,400 จุดก็เป็นโอกาสในการเข้าซื้อหุ้นในราคาถูก

Krungsri Exclusive Investment Consultant Team

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หันเล่นหุ้นมือใหม่