(ornaments)Good Morning News
27 เมษายน 2558
General News
• ก.พาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐดีดตัวขึ้น 4% ในเดือน มี.ค.เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า จากคำสั่งที่เพิ่มขึ้นสำหรับเครื่องบินและรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น แต่ถ้าหากไม่รวมหมวดขนส่งที่มีความผันผวน ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนลดลง 0.2% ในเดือน มี.ค. เป็นการร่วงลงเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน เป็นสัญญาณว่า ภาคธุรกิจยังคงปรับลดการลงทุน
• สถาบันเศรษฐกิจ Ifo ของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีในเดือน เม.ย.เพิ่มขึ้นเป็น 108.6 เป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน จาก 107.9 ในเดือน มี.ค. บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเยอรมนีกำลังปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อปลายปีที่แล้ว สอดคล้องกับที่สถาบัน GfK ที่รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
• รมว.เศรษฐกิจรัสเซีย คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของรัสเซียจะกลับมาเติบโตอีกครั้งตั้งแต่ช่วงต้นปีหน้า หลังจากที่ได้เคยประเมินว่าเศรษฐกิจจะหดตัวลงอีก 2-3% ในไตรมาส 2 ปีนี้ โดยเศรษฐกิจของรัสเซียยังคงประสบกับความยากลำบาก เนื่องจากผลกระทบของการร่วงลงของราคาน้ำมัน และการถูกชาติตะวันตกคว่ำบาตร
• ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCSI) ของเกาหลีใต้ในเดือนเม.ย. อยู่ที่ 104 ในเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้นจาก 101 ในเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน หลังจากที่ BOK มีมติปรับลดดอกเบี้ยสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.75% ในเดือน มี.ค.
• เจ้าหน้าที่คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) เปิดเผยว่า NDRC อาจจะเปิดตัวโครงการลงทุนขนาดใหญ่ในอนาคตอันใกล้นี้ หลังจากที่การลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐานของจีนในไตรมาสแรก ขยายตัว 23.1% เมื่อเทียบรายปี โดยเฉพาะการลงทุนด้านรถไฟ ถนน และน้ำ
• กระทรวงทรัพยากรมนุษย์และสวัสดิการสังคมของจีน (MOHRSS) เปิดเผยว่า การจ้างงานในพื้นที่เขตเมืองของจีน เพิ่มขึ้น 3.24 ล้านตำแหน่งในช่วงไตรมาส 1/58 น้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วอยู่ 200,000 ตำแหน่ง เป็นการชะลอตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงิน ส่วนอัตราว่างงานในเขตเมือง ณ สิ้นเดือน มี.ค. อยู่ที่ 4.05% ลดลงเมื่อเทียบกับตลอดปี 2557 ซึ่งอยู่ที่ 4.09%
• ครม.เศรษฐกิจ มีมติเห็นชอบกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2559 ที่ 2.72 ล้านล้านบาท เป็นงบขาดดุล 3.9 แสนล้านบาท ภายใต้สมมติฐานการเติบโตของ GDP ไทยที่ 4% พร้อมทั้งเพิ่มสัดส่วนของงบลงทุนเป็น 5.4 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 20% ของวงเงินงบประมาณ โดยเป็นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ 1.38 แสนล้านบาท และแผนบริหารจัดการน้ำ 7 หมื่นล้านบาท
• ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบีประเมินว่า ที่ประชุม กนง. จะคงดอกเบี้ยในการประชุมในวันที่ 29 เม.ย. โดยมองว่า สถานการณ์ในปัจจุบันต้นทุนทางการเงินไม่ใช่อุปสรรคสำคัญของการบริโภคและการลงทุน การลดดอกเบี้ยนโยบายจึงอาจไม่ใช่คำตอบสำหรับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ และความเสี่ยงด้านลบอาจไม่รุนแรงถึงขั้นวิกฤตเศรษฐกิจ จึงควรจะเก็บกระสุนทางการเงินซึ่งมีค่อนข้างจำกัดเพื่อเตรียมรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
• ศูนย์วิจัยกสิกรไทยสรุปข้อมูลสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ไทย 14 แห่ง ณ สิ้นเดือน มี.ค. พบว่า เงินให้สินเชื่อสุทธิ อัตราการขยายตัว 3.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นำโดยการให้สินเชื่อในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่เป็นหลัก ที่สินเชื่อเพื่อธุรกิจและสินเชื่อรายย่อยยังเติบโตได้ดี ขณะที่สินเชื่อเช่าซื้อยังหดตัว สำหรับแนวโน้มในไตรมาส 2/58 ประเมินว่าสินเชื่อมีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นรายไตรมาสตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่การขยายตัวอาจไม่มากนัก เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ยังคงระมัดระวังการให้สินเชื่อ หลังจากข้อมูลผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกพบว่าจำนวนสินเชื่อตกชั้นและภาระการกันสำรองหนี้ของธนาคารยังปรับเพิ่มขึ้น
• รมว.พลังงาน คาดว่า การเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 และการปรับโครงสร้างราคาก๊าซ NGV จะสามารถดำเนินการได้ภายใน 6 เดือนข้างหน้านี้ โดย ณ ขณะนี้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)อยู่ระหว่างการพิจารณาแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเปิดสัมปทานครั้งใหม่เพื่อให้มีความเหมาะสม ส่วนการปรับราคา NGV แม้ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา แม้จะสามารถขยับราคาขึ้นมาอยู่ที่ 13 บาท/กิโลกรัม แต่ยังไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 15 บาท/กิโลกรัม ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ทำการปรับราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงได้เรียบร้อยแล้ว
• บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) รายงานว่า คอนโดฯที่เปิดขายใหม่ในไตรมาสแรกของปี 58 อยู่ที่ 10,450 ยูนิต ลดลงจากไตรมาส 4/57 ประมาณ 32% แสดงถึงตลาดคอนโดฯในกรุงเทพฯยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัว เนื่องจากประชาชนยังขาดความเชื่อมั่น โดยกลุ่มคอนโดฯระดับราคาไม่เกิน 1 แสนบาทต่อตรม. มีอัตราการขายที่ 50% เท่านั้น ในขณะที่คอนโดฯที่มีราคา2-2.5 แสนบาทต่อ ตรม. มีอัตราการขายได้ที่ 81% สะท้อนว่า กลุ่มผู้ซื้อที่มีรายได้ระดับปานกลางลงไปยังคงมีปัญหาในเรื่องของหนี้ครัวเรือนที่มีผลต่อสถานะการเงิน และผู้ประกอบการได้เน้นการเพิ่มสัดส่วนในตลาดระดับบนที่ยังมีกำลังซื้อที่ดี
Equity Market
• SET Index ปิดที่ 1,555.46 จุด เพิ่มขึ้น 10.62 จุด (+0.69%) มูลค่าการซื้อขาย 36,044 ล้านบาท โดยตลาดหุ้นปรับขึ้นและอยู่ในแดนบวกได้ตลอดทั้งวัน ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย โดยมีการฟื้นตัวของราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ถูกแรงเทขายในช่วง 2 วันก่อนหน้า และหุ้นกลุ่มพลังงานเป็นตัวนำการขึ้นของตลาด ตามราคาน้ำมันโลกที่เพิ่มขึ้น ในสัปดาห์นี้ มีประเด็นสำคัญต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมเฟดและการประชุม กนง.
สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม
กลุ่มนักลงทุน ล้านบาท
นักลงทุนสถาบัน -203.05
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ -355.04
นักลงทุนต่างชาติ +1,163.86
นักลงทุนทั่วไป -605.76
Fixed Income Market
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลดลง โดยเปลี่ยนแปลงอยู่ในช่วง -0.04% ถึง 0.00% มูลค่าซื้อขาย 95,495 ล้านบาท สำหรับวันนี้มีการประมูลตั๋วเงินคลัง อายุ 1 เดือน มูลค่า 20,000 ล้านบาท
ที่มา กองทุนบัวหลวง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น